วันที่ 16 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 15 ก.ย. ร.ต.อ.จาตุรนต์ ทองเกลี้ยง รองสารวัตรสอบสวน สภ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยธารน้ำใจสุไหงโก-ลก มีเหตุคนถูกยิงเสียชีวิตบนรถกระบะ มาจอดขอความช่วยเหลือที่ปากซอย19 ถ.ประชาวิวัฒน์ ต.สุไหงโก-ลก จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ศุภกร พึ่งรศ ผกก.สภ.สุไหงโก-ลก และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารจำนวนหนึ่งรุดเดินทางไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบรถกระบะ มิตซูบิซิ สีดำ 4ประตู ทะเบียน ชธ3487กทม. จอดอยู่ โดยที่เบาะข้างคนขับมีศพ นายทรงวุฒิ ปัญญา อายุ 30 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนพก ขนาด 9 ม.ม. ที่ราวนมขวา ไหล่ขวา เอวและใต้รักแร้ขวา รวม 4 นัด ตรวจสอบพบปลอกกระสุนปืนพก ขนาด 9 ม.ม. ตกอยู่จำนวน 4 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบถาม น.ส.ดาวานีย์ ภรรยาของผู้เสียชีวิต ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุตนเป็นคนขับรถกระบะ โดยมีสามีนั่งคู่กันมากลับจากรับประทานอาหารที่บ้านแม่ ซึ่งอยู่ท่ากอไผ่ ถ.ชลธารเขต ซอย3 ต.สุไหงโก-ลก เพื่อกลับบ้านพัก เมื่อถึงบริเวณหน้าบ้านพัก ก็จอดรถให้สามีลงจากรถเพื่อเดินไปเปิดประตูรั้ว ระหว่างที่สามีกำลังจะเปิดประตูลงจากรถ ซึ่งฝนกำลังตกลงมาอย่างหนัก
จากนั้นมีคนร้ายจำนวน 1 คน เดินมาใช้อาวุธปืนยิงสามีผ่านกระจกรถยนต์ จำนวน 4 นัดซ้อน แล้วคนร้ายได้หลบหนีไปกับยานพาหนะไม่ทราบชนิด ตนจึงขับรถยนต์เพื่อจะนำตัวสามีส่งรักษาที่โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก แต่พบรถยนต์ของเจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยธารน้ำใจสุไหงโก-ลก จอดอยู่บริเวณปากซอย 19 ถ.ประชาวิวัฒน์ ต.สุไหงโก-ลก จึงขอความช่วยเหลือ เมื่อเจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยธารน้ำใจสุไหงโก-ลก เปิดประตูรถกระบะไปดูสามี พบว่าสามีเสียชีวิตแล้ว จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว
ด้าน พ.ต.อ.ศุภกร พึ่งรศ ผกก.สภ.สุไหงโก-ลก เผยว่า เบื้องต้นทราบว่าผู้เสียชีวิตมีอาชีพแปรรูปเนื้อวัวจำหน่ายในพื้นที่ และได้สอบปากคำภรรยาของผู้เสียชีวิตในเบื้องต้นไม่ทราบปมเหตุที่เกิดขึ้น และไม่ทราบว่าคนร้ายมาอย่างไร ซึ่งตนได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการตรวจสอบแกะรอยของคนร้ายจากกล้องวงจรปิด ที่ติดตั้งไว้บนเสาไฟฟ้าจากบ้านแม่ยายของผู้เสียชีวิต ไปยังบ้านพักของผู้เสียชีวิตที่อยู่ข้างบ้านจุดเกิดเหตุ
เจ้าหน้าที่จะเชิญภรรยาของผู้เสียชีวิตมาให้ปากคำอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่รับศพสามีไปประกอบพิธีทางศาสนา โดยในเบื้องต้นคาดว่า ปมเหตุน่าจะมาจากความขัดแย้งด้านธุรกิจแปรรูปเนื้อวัว แต่ถึงอย่างไรเจ้าหน้าที่จะทำการสืบสวนสอบติดตามคนร้ายมาลงโทษให้ได้ เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์
