ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนโทษเจ้าของเนอสเซอรี่-พี่เลี้ยง ทำร้ายน้องนาวาดับ ยกฟ้องจำเลยข้อหาร่วมกันทำร้ายผู้อื่นถึงแก่ความตาย เป็นกระทำการโดยประมาท
จากกรณี น.ส.วราลี เสริมจันทร์ อายุ 37 ปี แม่ของ ด.ช.จตุภัทร วรศาสตร์ อายุ 11 เดือน หรือน้องนาวา ผู้ตาย เข้าร้องขอความเป็นธรรมสื่อมวลชน จากการที่ตนเองนำน้องนาวา ไปฝากเลี้ยงที่เนอสเซอรี่ แห่งหนึ่ง ในต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ได้เพียง 6 วัน ลูกชายก็มาเสียชีวิตแบบมีเงื่อนงำ เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 13.25 น.วันที่ 25 เม.ย.2561
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
กระทั่งผลทางนิติวิทยาศาสตร์ออกมา แล้วว่าน้องเสียชีวิตจากเหตุสมองขาดอากาศหายใจ ซี่โครงซีกที่ 2 และ 4 แตก, ม้ามแตก ทำให้เป็นหลักฐานมัดตัว นางกมลวรรณ จีนจะโปะ เจ้าของเนอสเซอรี่ และนางนางอัมพร ดาวเรรัมย์ พี่เลี้ยง ก่อนที่ทั้งจะถูกพนักงานสอบสวน จะแจ้งข้อหา ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุถึงแก่ความตาย
ต่อมาวันที่ 16 ส.ค.62 ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยทั้งสองมีความผิด ร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย จำคุกคนละ 3 ปี ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเป็นเงิน 820,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 35 ต่อปี ของต้นเงินดังกล่าวนับตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย.61 เป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จ คำขออื่น นอกจากนี้ ให้ยก ฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ ต่อมานางกมลวรรณยืนประกันตัวศาลชั้นต้น เพื่อออกมาต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม ส่วนนางอัมพรพี่เลี้ยงไม่ขอสู่ถูกคุมตัวเข้าเรือนจำกลางสมุทรปราการ ตามที่เสนอข่าวไปนั้น
ความคืบหน้า เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 24 ก.ย. ที่ศาลจังหวัดสมุทรปราการ ศาลอุทธรณ์ ภาค 1 นัดฟังคำพิพากษา คดีแดง อ6016/61 คดีแดง อ1261/62 พนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นางกมลวรรณ จีนจะโปะ จำเลยที่ 1 นางอัมพร ดาวเรรัมย์ จำเลยที่ 2 ในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกาย ด.ช.จตุภัทร วรศาสตร์ หรือ น้องนาวา อายุ 11 เดือน เป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย โดยศาลพิเคราะห์ พยานหลักฐานของ โจทก์ ของจำเลย ซึ่งขอเบิกความสู้คดีในชั้นอุทธรณ์
อ่านข่าว คุกอ่วม ‘เจ้าของเนิร์สเซอรี่-พี่เลี้ยง’ ทำ น้องนาวา ตาย แม่ลั่นทวงความยุติธรรมให้ลูกแล้ว
โดยศาลพิจารณาปรับบทกฎหมายจากเดิม ยกฟ้องจำเลยทั้งสองในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุทำให้ถึงแก่ความตาย เป็นกระทำการโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
สำหรับโทษจำคุกจำเลยทั้งสองนอกจากที่แก้ ให้เป็นไปตามคำพิจารณาศาลชั้นต้น จำคุกคนละ 3 ปี ร่วมกันชดใช้คำสินไหมทดแทนเป็นเงิน 820,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 35 ต่อปีของต้นเงินดังกล่าวนับตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย.61 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ
ส่วนบรรยากาศ ภายหลังจากนางวราลี เสริมจันทร์ และนายสถิตย์ ผิวอ่อน ทนายความ ได้ลงมาจากห้องพิจารณณาคดี นางวราลีเดินถือรูปของน้องนาวา ออกมาด้วยสีหน้ากังวล ภายหลังจากได้ทราบว่า จำเลยทั้งสองถูกพิจารณาจากโทษร่วมกันทำร้ายร่างกายเป็นเหตุทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เป็นกระทำโดยประมาทเป็นเหตุทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
พร้อมกับกล่าวทั้งน้ำตาว่า สำหรับวันนี้หลังจากรับฟังคำพิพากษาตามที่ลงโทษจำเลยทั้งสองแล้ว ยังไม่เป็นไปตามที่ตนต้องการ เนื่องจากตนนั้นสูญเสียมาเยอะ เมื่อสี่เดือนก่อนตนเองก็เพิ่งจะสูญเสียสามีไป จึงทำให้ตนเองต้องต่อสู้เพียงคนเดียว โดยตนเองยืนยันว่าจะขอสู้เพื่อน้องนาวาให้ถึงที่สุด ตนเป็นฝ่ายสูญเสีย ไม่ได้ร่ำลาแม้กระทั่งลูก ส่วนฝ่ายจำเลยยังมีโอกาสได้ต่อสู้คดี อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ตนจะให้ทนายความเตรียมยืนคำร้องต่อสู้ในชั้นฎีกาต่อไป
