หลังจากเจ้าอาวาสเคยถูกจับขืนใจเด็กวัย13 จนตั้งท้อง ล่าสุดผล DNA ตรงกับคนขับรถของเจ้าอาวาส สารภาพร่วมกันขืนใจ เผยปมเหตุเรื่องชอบแม่เด็ก
วันที่ 15 ต.ค. 63 พล.ต.ต.สยาม บุญสม ผู้บังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์(ปคม.) สั่งการให้ พ.ต.อ.ณัฎฐ์ สุวรรณวัฒนะ ผกก.3บก.ปคม. นำหมายศาลเข้าจับกุม นายธณกร อายุ 50 ปี ภายหลังจาก น.ส.เอ๋ (นามสมมติ) อายุ 18 ปี ซัดทอดว่าเป็นคนร่วมกับ นายสุริยพร อายุ 53 ปี หรืออดีตเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่ง ใน อ.เมืองบุรีรัมย์ กระทำชำเรา ตั้งแต่ อายุ 13 ปี
การซัดทอดดังกล่าว สืบเนื่องจากเมื่อเดือนกันยายน 2562 ที่ผ่านมา ผู้ปกครอง น.ส.เอ๋ (นามสมมติ) ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.หนองสองห้อง ว่าถูกเจ้าอาวาสขืนใจลูกสาว จนตั้งท้องได้ 5 เดือนจากการสอบถาม น.ส.เอ๋ ยังทราบอีกว่า เจ้าอาวาสได้ล่วงละเมิดตั้งแต่ปี 2557 ตอนนั้น อายุ 13 ปี กุฏิของพระอาจาย์ พร้อมถ่ายคลิปไว้ไม่ให้นำเรื่องไปบอกใคร และสั่งให้ ด.ญ.เอ๋ ตอนนั้น มาหาที่วัดเป็นประจำ กระทั่งน.ส.เอ๋ ตั้งท้องได้ 5 เดือนเมื่ออายุได้ 18 ปี
ต่อมามีการเจรจาตกลงจ่ายค่าทำขวัญเป็นจำนวนเงิน 150,000 บาท เป็นค่าเสียหาย โดยตำรวจระบุว่า น.ส.เอ๋ อายุเกินกว่า 18 ปี สามารถยอมความกันได้ ก่อนเจ้าอาวาสจะย้ายออกจากวัดไป
ต่อมา นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลืออาชญากรรม พร้อมตำรวจ ปคม.เข้าร่วมจับกุมนายสุริยพร วงค์เมือง อดีตเจ้าอาวาส คนเดิม เนื่องจากตอน นายสุริยพร ล่วงละเมิด เด็กอายุเพียง 13 ปีเท่านั้น โดยอดีตเจ้าอาวาส ยอมรับว่าข่มขืนจริง แต่เด็กในท้องไม่ใช่ลูกของตัวเอง ชุด ปคม.จึงทำการตรวจ DNA น.ส.เอ๋ กับอดีตเจ้าอาวาส
ล่าสุดผล DNA ออกมาไม่ตรงกับอดีตเจ้าอาวาส แต่ไปตรงกับ นายธณกร อายุ 50 ปี คนขับรถของเจ้าอาวาส(ครั้งนั้น) ตามที่ น.ส.เอ๋ ให้การก่อนหน้านี้ ว่ามีผู้ร่วมข่มขืนรวม 2 คน คือตัวเจ้าอาวาส กับคนขับรถ
เบื้องต้นตำรวจตั้งข้อหา “ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็นด้วยประการใดๆโดยใช้กำลังประทุสร้าย โดยผู้อื่นนั้น อยู่ในสภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ โดยร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันอันมีลักษณะเป็นการฅโทรมหญิง”
จากการสอบสวน นายธณกร ให้การรับสารภาพว่า ได้มีเพศสัมพันธ์กับเด็กจริง แต่ไม่ได้เป็นการรุมโทรม ตามที่ตำรวจกล่าวหา ส่วนสาเหตุที่ลงมือกระทำ เพราะอยากให้เด็กพ้นออกจากเจ้าอาวาส เพราะสงสารเด็กและเป็นการไม่สมควร ประกอบกับตนเคยชอบแม่ของเด็กมาก่อนตอนเป็นสาว อยากจะให้ลูกเป็นตัวแทนของแม่ จึงลงมือขืนใจ
