เจ้าหน้าที่ดับเพลิง ระดมรถน้ำกว่า 10 คัน เร่งสกัดเพลิงไหม้ โกดังผลิตสีสเปรย์ หวั่นลุกลาม เข้าโกดังสำคัญ แหล่งเก็บหัวเชื้อไวไฟ เกือบเกิดระเบิดครั้งใหญ่
วันที่ 15 ต.ค. 2563 ร.ต.อ.เกียรติพล น้อยพิทักษ์ รองสว.(สอบสวน)สภ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร รับแจ้งมีเหตุไฟไหม้โรงงานบริษัท วีเอสวีเพนท์แอนด์เคมีคอล จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 369 ม. 4 ซอยวัดนางสาว ถนนเศรษฐกิจ 1 ต.ท่าไม้ อ.กระทุ่มแบน ซึ่งเป็นผู้ผลิตสีเฟอร์นิเจอร์ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมประสานรถน้ำของ อบต.ท่าไม้ อบต.สวนหลวง อบต.แคราย อบต.ท่าเสา และเทศบาลเมืองกระทุ่มแบน กว่า 10 คัน เข้าระงับเหตุ
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
โรงงานดังกล่าวมี 3 อาคาร ตั้งอยู่บนเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ อาคารที่เกิดเหตุเป็นอาคารฝ่ายผลิตสี เนื้อที่ 1 ไร่ ซึ่งเพลิงได้โหมลุกไหม้อย่างรุนแรงอยู่ในโซนด้านหน้าของตัวอาคาร โชคดีที่ไม่ลุกลามโกดังข้างเคียง เจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 20 นาที จึงคุมเพลิงไว้ได้ จากการตรวจสอบพบโครงสร้างของหลังคาอาคารเกิดการชำรุดเสียหายและทรุดลงมาบางส่วน และไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
จากการสอบถามนายณรงค์ แดงเกิด รองนายก อบต.ท่าไม้ ที่ได้เข้ามาตรวจสอบและควบคุมการดับเพลิงฯ กล่าวว่า โรงงานแห่งนี้เป็นโรงงานผลิตสีสเปรย์ สีทาพื้นสำหรับเฟอร์นิเจอร์ ก่อตั้งมานานเกือบ 20 ปี มีคนไทยเป็นเจ้าของ และเคยเกิดเหตุเพลิงไหม้มาแล้ว 1 ครั้ง เมื่อประมาณ 10 ปีก่อน ส่วนจุดที่เกิดเพลิงไหม้นั้นจากการพูดคุยกับเจ้าของโรงงานทราบว่า เป็นในส่วนของถังผสมสีที่มอเตอร์เกิดขัดข้อง จึงทำให้มีประกายไฟลุกไหม้แล้วลามไปติดเชื้อเพลิงที่วางอยู่ใกล้ ๆ เช่น หัวเชื้อแม่สี ทินเนอร์ และ แอลกอฮอล์
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าฉีดน้ำสกัดจุดต้นเพลิง ควบคุมสถานการณ์ไว้ได้
ซึ่งก็นับว่าโชคดีที่ไม่ลุกลามไปทางด้านหลัง หรืออาคารข้างเคียง เพราะมีสารเคมีวัตถุที่เป็นเชื้อเพลิงเก็บไว้จำนวนมาก ไม่เช่นนั้นอาจจะเกิดการระเบิดและไฟไหม้ครั้งใหญ่ได้ ซึ่งหลังจากนี้ก็จะได้ทำการปิดกั้นพื้นที่โดยรอบตัวอาคาร เพื่อรอให้เจ้าหน้าที่ของ อบต.ท่าไม้ เข้ามาตรวจสอบหาสาเหตุที่ชัดเจน รวมถึงวางแนวทางการป้องกันต่อไปด้วย อีกทั้งในเรื่องของมลพิษที่มีต่อสิ่งแวดล้อมนั้น เบื้องต้นยังไม่พบว่าก่อให้เกิดมลพิษแต่อย่างใดทั้งสิ้น
ด้านร.ต.อ.เกียรติพล ได้เรียกเจ้าของสถานประกอบการและพนักงานที่อยู่ในที่เกิดเหตุไปสอบปากคำเพิ่มเติม รวมถึงประสานเจ้าหน้าที่วิทยาการ กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) เข้าตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุของการเพลิงไหม้ที่แท้จริงต่อไป
