รวบอีก!ช่างรับเหมาทุบป้อมตร.บางนา รับซดเหล้าก่อนมาม็อบ อ้างทำกรวยหลุดมือ

รวบอีก 1 ช่างรับเหมาทุบป้อมตำรวจบางนา รับซดเหล้าก่อนมาชุมนุม อ้างเมาทำกรวยหลุดมือเผยไม่พอใจไฟถนนดับ ฝากขอโทษปชช. ยันไม่ใช่ตำรวจ-ทหาร

กรณีการชุมนุมที่แยกบางนา เมื่อวันที่ 18 ต.ค. เวลาประมาณ 20.00 น. ซึ่งพบว่าหลังจากผู้ชุมนุมประกาศยุติการชุมนุม เกิดเหตุวุ่นวายเนื่องจากมีบุคคลบางกลุ่มปาหินและกรวยยางเข้าไปที่ป้อมตำรวจบริเวณแยกปากนา ทุบตีป้อมควบคุมสัญญาณไฟจราจร ทำให้ทรัพย์สินของทางราชการได้รับความเสียหาย กระทั่งมีกระแสโลกออนไลน์มีการออกมาโพสแชร์ภาพบุคคลที่ร่วมก่อเหตุ เปรียบเทียบกับเจ้าหน้าที่นั้น

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด

เมื่อวันที่ 20 ต.ค.63 พ.ต.อ.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง รอง ผบก.น.5 รักษาราชการแทนผกก.สน.บางนา สั่งการให้ พ.ต.ท.ศุภากร แก้วเขียว รอง ผกก.สส.สน.บางนา พ.ต.ต.เพิ่มสกุล นิลขำ สว.สส.สน.บางนา และร.ต.อ.พิทักษ์ มีจิตร์ รอง สว.สส.สน.บางนา ร่วมกันนำกำลังตำรวจฝ่ายสืบสวนนครบาลบางนา จับกุมตัว นายประวิทย์ หรือโบ สมรัตน์ อายุ 29 ปี ชาวจังหวัดศรีษะเกษ หนึ่งในผู้ต้องหาร่วมก่อเหตุทำลายป้อมตำรวจแยกบางนา พร้อมเสื้อผ้าสวมใส่ในวันก่อเหตุ โดยสามารถจับกุมได้ที่ห้องพักภายในซอยจ่าโสด ถนนสรรพวุธ แขวงบางนาใต้ เขตบางนา มาสอบสวนที่ สน.บางนา

สอบสวน ผู้ต้องหารายนี้ ให้การยอมรับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุเจ้าตัวดื่มเหล้าขาวที่ห้องพักมาตั้งแต่ช่วงเช้า จากนั้นเดินทางไปร่วมชุมนุม เพราะอยากไปร่วมด้วยใจ เมื่อที่ชุมนุมประกาศยุติ มีเสียงฮือจากกลุ่มผู้ชุมนุมรายอื่นๆ เนื่องจากไม่พอใจที่ไฟส่องสว่างบนถนนดับลง ตนยืนยันว่าไม่ใช่เป็นคนแรกที่ขว้างปาสิ่งของใส่ป้อมตำรวจ เพียงหยิบกรวยจราจรที่อยู่ในละแวกนั้น พยายามขว้างปาใส่ป้อมตำรวจ แต่ด้วยอาการเมาทำให้กรวยหลุดมือ

อ่านข่าว นาทีผู้ชุมนุมช่วยกันรวบชายปาหินใส่ป้อมตำรวจ-หนุ่มผมเกรียนอ้างแฝงม็อบ

ผู้ต้องหายังให้การต่ออีกว่า กระทั่งมีผู้ชุมนุมรายอื่นอีกหลายคนกรูกันเข้ามาล็อคตัวไว้ พร้อมสอบถามว่า “มึงเป็นตำรวจหรือทหาร เพราะด้วยที่ตนสวมใส่เสื้อยืดแขนยาวสีดำที่ยืมเพื่อนมาใส่ มีสัญลักษณ์คล้ายหน่วยงานทหาร จนทำให้เข้าใจผิด แต่ไม่ทันจะตอบ กลับถูกกลุ่มผู้ชุมนุมเข้ามาทำร้าย จนมีหญิงสาวเข้ามากอดไว้ ก่อนมีคนช่วยพาไปส่งห้องพัก และมาถูกตำรวจจับกุมไว้ได้

อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจสอบสวนอย่างละเอียด ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน แจ้งข้อหา “ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์, โดยการฝ่าฝืนพระราชกำหนดการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 และมั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้ายขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด ให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง”

ต่อมา เวลา 12.45 น.วันเดียวกัน พ.ต.ท.สายชล หงษ์สุวรรณ์ รอง ผกก.(สอบสวน) สน.บางนา ในฐานะหัวหน้างานสอบสวน สั่งการให้พนักงานสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนนำตัวนายประวิทย์ หรือโบ รวมไปถึงนายขวัญ จีนา อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาที่ถูกจับก่อนหน้านี้นำตัวมาจาก ตชด.ภ.1 ขึ้นรถผู้ต้องขัง ส่งฟ้องศาลอาญาพระโขนง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปทั้งนี้ระหว่างตำรวจคุมตัวผู้ต้องหารายนี้ส่งศาลนั้น นายประวิทย์ ระบุกับสื่อมวลชนที่มารอทำข่าวว่า “ผมอยากขอโทษชาวประชาชนที่ไปชุมนุมทุกคน กับการกระทำดังกล่าวมันไม่ดี พร้อมทั้งขอยืนยันว่าไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจหรือทหารแต่อย่างใด แต่มีอาชีพเป็นช่างรับเหมา เดินระบบไฟตามอาคาร เหตุการณ์นี้เป็นการเข้าใจผิดกันเท่านั้น รวมไปถึงไม่มีใครว่าจ้างตนมาก่อเหตุ ผมทำไปด้วยความเมา มีอารมณ์ร่วม ในขณะนั้น”