ตำรวจจันทบุรี ตามรวบแก๊งวัยรุ่น ล็อกคออริในร้านสะดวกซื้อ ก่อนใช้อาวุธปืนไล่ยิง จนได้รับบาดเจ็บ รับสารภาพทำเพื่อล้างแค้น แต่ปฏิเสธทำแผน กลัวจะไม่ปลอดภัย

จากกรณีกลุ่มเยาวชนใช้อาวุธปืนยิงใส่คู่อริได้รับบาดเจ็บบริเวณหน้าร้านหน้าร้านมินิมาร์ทแห่งหนึ่ง บนถนนมหาราช ต.ตลาด อ.เมืองจันทบุรี จ.จันทบุรี โดยภายหลังเกิดเหตุตำรวจสามารถตามไปจับกุมได้ทั้งหมด เหตุเกิดเมื่อวันที่ 21 ต.ค. ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

อ่านข่าว รวบทันควัน 4โจ๋กร่าง บุกร้านค้าล็อกคอ ลั่นไกใส่คู่อริวัย16 ต่อหน้าเพื่อนสาว

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 22 ต.ค. 2563 ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจันทบุรี พล.ต.ต.สุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผบก.ภ.จว.จันทบุรี พร้อมด้วยพ.ต.อ.ยอดชาย จำปาทอง ผกก.สส.ภ.จวจันทบุรี และพ.ต.อ.พงศรพี รพีถวิลวรรณ ผกก.สภ.เมืองจันทบุรี แถลงผลการจับกุมนายชัยทัศน์ หรือเบนซ์ อบอาย อายุ 22 ปี ผู้ใช้อาวุธปืนยิง นายเบส (นามสมมติ) นายเจ (นามสมมติ) และนายบาย (นามสมมติ) ผู้ต้องหาในคดี ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

พร้อมของกลางอาวุธปืนพกขนาด จุด 45 ยี่ห้อ BUL M-5 จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุน รถจยย. ฮอนด้า สกูปี้ไอ สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน และรถจยย. ยามาฮาฟีโน่ สีน้ำตาล ทะเบียน ขคข-618 จันทบุรี พาหนะที่ใช้ในการก่อเหตุ

พล.ต.ต.สุวิชาญ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 21 ต.ค. ที่ผ่านมา ในขณะกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ได้เข้ามาเติมน้ำมันรถจยย. ที่ร้านบุปผาสโตร์ ที่เกิดเหตุ และพบรถจยย. ของนายจุทารัตน์ ผู้เสียหายซึ่งเป็นคู่อริเคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันมาก่อนยืนอยู่ในร้าน

จากนั้นนายเจ ได้เข้าไปล็อกคอนายจุทารัตน์ ออกมาจากร้าน และพากันรุมทำร้ายร่างกาย แต่นายจุทารัตน์ พยายามวิ่งหนี ทำให้นายชัยทัศน์ ใช้อาวุธปืนยิงไล่หลังไป 1 นัด กระสุนถูกบริเวณขาขวาได้รับบาดเจ็บ จากนั้นผู้ต้องหาทั้งหมด จึงได้พากันหลบหนีไป

พล.ต.ต.สุวิชาญ กล่าวต่อว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นการก่อเหตุที่อุกอาจ เนื่องจากที่เกิดเหตุอยู่ในแหล่งชุมชน และมีประชาชนอยู่บริเวณที่เกิดเหตุจำนวนมาก จึงได้สั่งการให้ตำรวจสืบสวนเร่งติดตามจับกุมผู้ต้องหา มาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยหลังใช้เวลาเพียง 8 ชม. หลังเกิดเหตุ ทางตำรวจสืบสวนจึงสามารถติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุได้ทั้งหมด

ซึ่งจากการสอบสวน ผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ให้การรับสารภาพว่าร่วมกันก่อเหตุจริง อ้างว่าเป็นความแค้นส่วนตัวและไม่ประสงค์ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เกรงความไม่ปลอดภัย จึงได้แจ้งข้อหา ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น พกพาอาวุธปืน ไปในที่ทาง สาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน