ผู้ใหญ่บ้านแจงแล้ว ให้ทำบุญบ้านละ1พัน อ้างหากไม่จ่ายไม่ต้องมาเผาผีกัน ชาวบ้านโอดรายได้น้อย คงบริจาคเท่าที่มี เจ้าอาวาสเผยทำสับสนสร้างความเสียหาย

จากกรณีผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่ง ในจ.ตราด ทำหนังสือขอบริจาคเงินจากลูกบ้าน ร่วมบริจาคเงินครัวเรือนละ 1,000 บาท เพื่อนำเงินมาสร้างศาลาการเปรียญหลังเก่าที่หยุดการก่อสร้างมานานกว่า 10 ปี โดยทำหนังสือส่งไปให้ชาวบ้านเมื่อวันที่ 21 ต.ค. 2563 จำนวนกว่า 100 หลังคาเรือน และขอให้มีการนำเงินมาบริจาคในวันที่ 25 ต.ค. 2563 ที่วัด ตามที่ข่าวนำเสนอไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันที่ 24 ต.ค. 63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ วัดสะพานหิน ต.แหลมกลัด อ.เมือง จ.ตราด ที่เป็นวัดเก่าแก่ เป็นที่ตั้งของศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชและศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พบพระครูกิตติวัฒน์ ธำรง เจ้าอาวาสวัดสะพานหิน และนายบุญโน๊ต ที่กำลังหารือเกี่ยวกับปัญหาเรื่องเงินบริจาคดังกล่าว

นายบุญโน๊ต กล่าวว่า ตนยอมรับว่าเขียนหนังสือด้วยลายมือตามข้อความที่ปรากฏจริง และได้ส่งไปให้ลูกบ้าน 2 หมู่บ้าน พร้อมมีการประชาสัมพันธ์ ผ่านทางหอกระจายข่าวของหมู่บ้าน และมีการยกตัวอย่างถึงการร่วมบริจาคเงินว่า คนเราไม่ว่าอยู่ที่ไหนเมื่อตายก็ต้องมาเผาผีกัน ไม่ได้บอกว่า หากไม่บริจาคจะไม่เผาผีกัน

นายบุญโน๊ต กล่าวต่อว่า ซึ่งทางเฟซบุ๊กที่มีการแชร์นั้น นำไปเขียนเกินเลยจากความเป็นจริง ทำให้เกิดความเข้าใจผิดกัน ซึ่งเรื่องนี้ยอมรับว่า ได้หารือกันทั้งผู้ใหญ่บ้าน 2 หมู่ นายกอบต. และเจ้าอาวาสเพื่อดำเนินในเรื่องนี้ เมื่อเกิดข่าวนี้เผยแพร่ออกไป ทางอำเภอเมืองตราด ขอให้ทำเรื่องชี้แจงไปยังนายอำเภอเมืองตราด เพราะเกรงว่าจะเกิดผิด พรบ.เรี่ยไร ซึ่งได้ชี้แจงทางวาจาไปแล้ว และได้รับคำแนะนำว่า ยังไม่ต้องรับบริจาคเงินในวันพรุ่งนี้

ด้านเจ้าอาวาสวัด กล่าวว่า ศาลาการเปรียญที่วัดได้ดำเนินการก่อสร้างมานานและหยุดไปจึงอยากจะดำเนินการก่อสร้างต่อ ทางวัดจึงประชุมกับกรรมการวัดและนายกอบต.แหลมกลัด รองนายกอบต. 2 คน และผู้ใหญ่บ้าน 2 หมู่บ้าน ว่าจะขอบริจาคเงินจากชาวบ้านมาดำเนินการก่อสร้างต่อ

มีชาวบ้านแสดงความจำนงพร้อมใจกันร่วมบริจาคจำนวนมาก และไม่ใช่แค่พันเดียว บางรายรายเกินกว่าพัน มีรายละหมื่นและรายละแสนก็มี แต่ในโซเชี่ยลไปแปลเจตนาผิด ทำให้เกิดผิดเจตจำนงของผู้ร่วมประชุม ซึ่งจะต้องหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินการเอาผิด เพราะสร้างความเสียหายให้ทางวัด ทั้งนี้ทางวัดจะดำเนินการก่อสร้างศาลาการเปรียญแห่งนี้ต่อไป

ขณะที่ นางอนุสรา กล่าวว่า ชาวบ้านหมู่ 5 ทุกหลังคาเรือนได้รับจดหมายของผู้ใหญ่บ้าน เพื่อขอบริจาคเงินรายละพันจริง ซึ่งตัวฉันก็พร้อมจะให้ตามที่ขอ แต่มีบ้านอีกหลายหลังคาเรือนก็บ่นเหมือนกันว่า ไม่มีเงินมากเท่านั้น เพราะต้องหากินเป็นรายวัน ได้ค่าแรงวันละ 300 บาท อาจจะมีปัญหาบ้าง แต่หลายคนก็พร้อมจะไปมอบเงินให้ในวันที่ 25 ต.ค. 2563

ส่วน ชาวบ้านอีกคนหนึ่ง กล่าวว่า ฉันเป็นลูกจ้าง มีรายได้ไม่มาก แต่ก็จะไปร่วมทำบุญในครั้งนี้ด้วย แต่คงจะไม่ได้มากถึง 1,000 บาท

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน