จากกรณีนายศิวกร สอิ้งรัมย์ อายุ 19 ปี ชาวจังหวัดบุรีรัมย์ นักเรียนวิทยาลัยเทคโนโลยียานยนต์ บางนา ถูกคนร้าย 2 ขับขี่รถจักรยานยนต์ใช้อาวุธปืนยิงเข้าบริเวณศีรษะ ขณะที่จอดรถจยย.ติดไฟแดง บนถนนเสรีไทยขาออกใกล้แยกนิด้า แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม. ก่อนขี่รถหลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อวันที่ 19 ก.ย. ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปนั้น อ่านข่าว ขี่จยย.ประกบข้าง ลงมือเหี้ยม! ชักปืนจ่อยิงหัวนักศึกษาเทคโนฯ ดับสยองกลางถนน

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 20 ก.ย. ที่สน.ลาดพร้าว พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.น.4 เดินทางมาประชุมความคืบหน้าคดีดังกล่าว โดยมี พ.ต.อ.ภาสกร รัตนปนัดดา ผกก.สน.ลาดพร้าว พ.ต.ท.สำรวย แสนสม พ.ต.ท.อานพ วินัยโรจน์ รองผกก.(สอบสวน) พ.ต.ท.ธีรยุทธ ใหม่แปง รองผกก.สส. พ.ต.ท.ไอยรา อากาศวิภาต สว.สส. โดยใช้เวลาประชุม 30 นาที

พล.ต.ต.นันทชาติ เปิดเผยว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนพยานไปแล้วทั้งหมด 4 ปาก ซึ่งให้ข้อมูลชัดเจนในเรื่องของรูปร่างหน้าตาประกอบกับฐานข้อมูลของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยข้อมูลหลักฐานกล้องวงจรปิดและประจักษ์พยานที่เห็นเหตุการณ์อย่างชัดเจน ทำให้พอที่จะทราบตัวผู้ก่อเหตุแล้ว ส่วนมูลเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งสาเหตุไว้ 3 ประเด็น ยังไม่ตัดเรื่องใดทิ้งทั้งเรื่องความขัดแย้งระหว่างสถาบัน ทะเลาะวิวาท และยิงผิดตัว ซึ่งอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเตรียมขอศาลออกหมายจับภายในวันนี้ โดยมั่นใจสามารถจับกุมตัวได้

ด้าน นายวี (นามสมมติ) อายุ 19 ปี พยานซึ่งเป็นเพื่อนของผู้ตายที่ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์มาด้วยกัน กล่าวว่า หลังจากออกจากร้านซ่อมโทรศัพท์มือถือในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านแฮปปี้แลนด์ ผู้ตายขี่รถจยย.มีตนเองเป็นคนซ้อน มาติดไฟแดงที่ช่วงแยกสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ระหว่างนั้นมีคนร้ายเป็นชาย 2 คน อายุประมาณ 20 ปี ผิวดำแดง ผอม สูง ไม่สวมหมวกกันน็อคขับขี่จยย.มาประกบด้านข้าง ก่อนใช้อาวุธปืนจ่อที่หัวตนเอง แล้วถามว่า “เรียนที่ไหน” และพูดคุยกันประมาณ 1 นาที ก่อนที่คนร้ายจะใช้อาวุธปืนยิงใส่ แต่ตนหลบทันก่อนกระสุนไปถูกนายศิวกรเสียชีวิต ก่อนที่คนร้ายขับขี่รถหลบหนีมุ่งหน้าถนนเสรีไทยขาออก และยืนยันว่า สามารถจดจำใบหน้าผู้ก่อเหตุได้เนื่องจากพูดคุยกันเป็นเวลานาน

ด้านนางราตรี สอิ้งรัมย์ อายุ 44 ปี แม่ของผู้ตาย กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนมีลูกชาย 2 คน โดยนายศิวกรเป็นคนโต หลังทราบข่าวรู้สึกใจสลาย เนื่องจากที่ผ่านมาลูกชายเพิ่งเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ได้ แค่ 4-5 เดือน เพื่อมาเรียนหนังสือและหางานทำ เพื่อส่งตัวเองเรียนด้วย เนื่องจากทางบ้านมีฐานะยากจน โดยลูกชายเป็นคนดี ไม่ดื่มสุรา และไม่เคยทะเลาะกับใครมาก่อน เข้ามากทม.ก็ยังไม่ค่อยรู้จักเส้นทาง จนตอนนี้ยังไม่ทราบสาเหตุว่าเหตุใดลูกชายจึงถูกยิงเสียชีวิต จึงอยากฝากตำรวจและสื่อมวลชน ให้ช่วยติดตามตามคนร้ายมาดำเนินคดี

ต่อมาครอบครัวสอิ้งรัมย์พร้อมญาติ นิมนต์พระสงฆ์ทำพิธีเชิญวิญญาณ นายศิวกรที่ถูกยิงเสียชีวิตบริเวณถนนเสรีไทย เพื่อก่อนรับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลที่วัดโพธิ์ย่อยบ้านยาง ต.บ้านยาง อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ เพื่อประกอบพิธีทางศาสนา

วันเดียวกัน ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. เปิดเผยว่า เบื้องต้นทราบกลุ่มที่ก่อเหตุแล้ว ตนจะลงไปติดตามคดีดังกล่าวอีกครั้ง ขณะนี้ตั้งประเด็นการก่อเหตุไว้ 2-3 ประเด็น 1.อาจจะเป็นเรื่องส่วนตัวมีสาเหตุโกรธเคืองกันมาก่อน 2.อาจจะเป็นเรื่องของสถาบัน 3.อาจจะหลงผิดลงมือก่อเหตุดังกล่าว

โดยมีผู้ก่อเหตุเบื้องต้น 2 คนต้องตรวจสอบดูว่ามีการติดตามตัวผู้ตายมาก่อนหน้านี้หรือไม่ แต่เป็นลักษณะขับขี่รถตามประกบยิง โดยใช้ปืนอีโบ๊ะหรือปืนลูกซองสั้นแบบไทยประดิษฐ์ คาดว่าภายในวันนี้น่าจะสามารถขออนุมัติหมายจับได้ ทั้งนี้ ภายในวัน 1-2 วัน เชื่อว่าจะสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมาย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน