วงจรปิดจับภาพชัด นักเรียนนักเลง อาวุธครบมือ ยกพวกตีกัน กลางซอยอุดมเดช สมุทรปราการ ไม่สนชาวบ้าน สาวเล่านาทีเดือด จี้ ตำรวจล่าตัวดำเนินคดี
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์คลิปซึ่งถ่ายจากมือถือ เหตุการณ์นักเรียนต่างสถาบัน อาวุธครบมือ ทั้งมีดและปืนยกพวกรุมทำร้ายกัน จนชาวบ้านพากันแตกตื่น พร้อมระบุข้อความว่า “ซอยอุดมเดช สมุทรปราการ เป็นอะไรกันนักหนา ตีกันเก่ง ป้ายทะเบียนก็ไม่มี หัวใจจะวาย ในซอยชุมชนนะเด็กสถาบันไหนก็ไม่รู้”
เกาะติดสถานการณ์ม็อบ กดติดตามไลน์ ข่าวสด
ล่าสุดวันที่ 27 ต.ค.2563 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปบริเวณซอยอุดมเดช 13 ต.บางเมือง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นที่เกิดเหตุ พบว่าเป็นถนนอยู่กลางชุมชนและมีชาวบ้านสัญจรไปมาคับคั่ง จากการสอบถาม น.ส.พิมลพรรณ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี ผู้ที่ถ่ายคลิป กล่าวว่า สำหรับเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 19.00 น. ขณะที่ตนและพ่อแม่กำลังนั่งขายข้าวนึ่งอยู่บริเวณหน้าบ้าน ได้ยินเสียงโวยวาย จึงได้หันไปดู ก็พบว่ากลุ่มนักเรียนไม่ทราบสถาบัน
นักเรียนนักเลง อาวุธครบมือ ยกพวกตีกัน กลางซอยอุดมเดช สมุทรปราการ
“ซึ่งในนั้นมีนักเรียนระดับมัธยม ทั้งสองฝ่ายขับรถจักรยานยนต์ไล่กวดกันมาจากทางปากซอยอุดมเดช ก่อนที่จะหยุดและถือมีด ปืนปากกา ลงไปตะลุมบอลและขว้างปาของใส่กันตามภาพ จนคนที่อยู่บริเวณดังกล่าวพากันแตกกตื่น ก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะแยกย้ายกันหลบหนี จากนั้นแม่จึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ทราบ” น.ส.พิมลพรรณ กล่าว
ภาพจากกล้องวงจรปิด
น.ส.พิมลพรรณ กล่าวต่อว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึง ทั้งหมดก็แยกย้ายไปแล้ว เบื้องต้นตนไม่เห็นมีคนบาดเจ็บ ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุตนยังรู้สึกหวาดผวาและกลัว เนื่องจากในซอยมักเกิดเหตุนักเรียนยกพวกตีกันบ่อยครั้ง อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยกวดขันนักเรียนเหล่านี้ เพราะการใช้อาวุธปืนในที่สาธารณะเป็นอันตรายต่อคนที่ผ่านไปมาจำนวนมาก เพราะจุดที่เกิดเหตุอยู่ห่างจากตลาดไม่ถึง 300 เมตร ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้ลงพื้นที่ หาตัวกลุ่มนักเรียนที่ก่อเหตุครั้งนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว
ขณะเดียวกันภาพวงจรปิด และคลิปที่ชาวบ้านถ่ายไว้ เผยให้เห็นมีกลุ่มนักเรียน 2 กลุ่ม จำนวน 5-6 คน ไล่ตีกันมานั้น ฝ่ายหนึ่งมีนักเรียนขาสั้นปะปนอยู่ด้วย ส่วนอีกฝ่ายเป็นนักเรียนช่างกางเกงขายาวล้วน โดยฝั่งนักเรียนช่างกางเกงขายาวมีอาวุธมั้งมีดที่ยาวเกือบ 2 ฟุต และแท่งเหล็กยาวประมาณ 1 คืบ คล้ายกับปืนปากกายกขึ้นส่ายไปมา จนอีกฝ่ายพากันวิ่งถอย ก่อนฝ่ายขาสั้นจะขว้างเก้าอี้และของใส่จนมีการชุนละมุน ก่อนจะแยกย้ายกันหลบหนี ท่ามกลางชาวบ้านที่ผ่านไปมา
