ชาวสวนยางพาราระทม! เจอโรคระบาดเล่นงาน แม้ราคาขึ้นแต่กรีดขายไม่ได้

ชาวสวนยางนาทวีเดือดร้อนหนัก เจอโรคระบาดใบร่วงชนิดใหม่ในยางพารา ทำใบยางร่วงน้ำยางหด เสี่ยงยืนต้นตาย เสียโอกาสกรีดยางขายช่วงราคายางขึ้น

เมื่อวันที่ 29 ต.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพสวนยางพาราในพื้นที่หมู่ 5 บ้านพรุเตียว ต.นาทวี อ.นาทวี จ.สงขลา มีใบร่วงโกร๋นจนเกือบหมดต้น สภาพใบร่วงนั้นยังสดเป็นใบสีเขียว แต่ละใบมีจุดคล้ายรอยไหม้ ซึ่งเป็นลักษณะของโรคระบาดในต้นยางพารา ที่กำลังระบาดอย่างหนักในหลายจังหวัดภาคใต้ โดยโรคนี้นั้นถูกเรียกว่า “โรคใบร่วงชนิดใหม่ในยางพารา” ซึ่งจะทำให้ใบร่วง ต้นยางพาราไม่สามารถสังเคราะห์แสง ทำให้มีน้ำยางลดน้อยลงไป

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด

โดยโรคจะค่อยๆ คืบคลานเข้ามา แพร่ระบาดได้ดีในช่วงที่มีฝนตก โดยเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถหาวิธีดูแลรักษาได้ ขณะนี้พบว่าในพื้นที่อำเภอนาทวีนั้นมีโรคระบาดชนิดนี้เกิดกับสวนยางพาราแล้วกว่า 3,000 ไร่ จากพื้นที่ปลูกยางกว่า 300,000 ไร่

นายสมพงษ์ ราชสุวรรณ ชาวสวนยางที่ได้รับผลกระทบ กล่าวว่า สวนยางของตนพบว่าเป็นโรคใบร่วงชนิดใหม่ในยางพารา มาตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ทำให้รอบการกรีดเท่าเดิม แต่ก็มีปริมาณน้ำยางลดน้อยลงไปกว่าร้อยละ 30 และจะค่อยๆ ลดลงไปเรื่อยๆ จนกระทั่งต้นยางแห้งตายหรือยืนต้นตาย ไม่สามารถให้น้ำยางต่อไปได้

ที่สำคัญโรคนี้ไม่มีวิธีการรักษา ขณะนี้พบระบาดเกือบทั้งภาคใต้แล้ว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นการยางแห่งประเทศไทย สำนักงานเกษตรในแต่ละอำเภอ ต่างเร่งหาแนวทางในการช่วยเหลือ แต่ก็คงไม่ทัน เพราะในช่วงนี้ราคายางพารากำลังปรับพุ่งสูงขึ้นทุกวัน และในทางกลับกันผลผลิตของน้ำยางลดน้อยลง ทำให้รายได้ต้องสูญหายไปไม่น้อย

“วันนี้ราคาน้ำยางสดที่กลุ่มจำหน่ายน้ำยางสดในตลาดท้องถิ่นอยู่ที่กิโลกรัมละ 70-75 บาท ซึ่งเป็นราคาที่เกษตรกรส่วนหนึ่งยิ้มได้ ในขณะที่อีกส่วนหนึ่งกลับมีรายได้น้อยกว่าที่ควรจะเป็น จากปัญหาโรคระบาดในสวนยางพารา จึงต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหา” นายสมพงษ์ กล่าว

ด้าน นางชนันญชิดา หนูสีคง เกษตรอำเภอนาทวี กล่าวว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ การยางแห่งประเทศไทยสาขานาทวี สำนักงานเกษตรอำเภอนาทวี เตรียมลงพื้นที่เพื่อเร่งหาแนวทางในการแก้ไขปัญหา ซึ่งจะใช้แนวทางทั้งการบินโดรนฉีดพ่นสารเคมีเพื่อกำจัดโรค

ในส่วนของเกษตรอำเภอก็จะฉีดพ่นสารกำจัดเชื้อราแบบชีวภัณฑ์ ภาคพื้นดิน พร้อมกับการใส่ปุ๋ยหลักและธาตุอาหารรองให้ครบถ้วน เพื่อบำรุงและกำจัดโรคในคราวเดียวกัน ซึ่งจะเริ่มปฏิบัติโดยหาแปลงยางเพื่อสาธิตและทดลองแก้ไขปัญหาร่วมกันอย่างเร่งด่วน

ที่มา มติชนออนไลน์