จากกรณีเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 44 เสียชีวิต 4 นาย และได้รับบาดเจ็บ 5 นาย ขณะเดินทางด้วยรถยนต์หุ้มเกราะ เพื่อดูแลความปลอดภัยโรงเรียนบ้านตะบิ้ง อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เหตุเกิดบนถนนสายเจาะกือแย-สายบุรี ม.1 ต.ตะบิ้ง อ.สายบุรี เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 22 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อาการของส.อ.ธีรวุฒิ ปานแก้ว ซึ่งถูกชิ้นส่วนรถยนต์กระเด็นเข้าที่หน้าอกอย่างรุนแรงและทำให้กระดูกหัวไหล่ซ้ายร้าว และอส.ทพ.ธันยา เอื้องฟ้าไพรวัล ถูกสะเก็ดระเบิดที่ลำตัวหลายแห่งถูกนำตัวส่งไปรักษาต่อที่ รพ.ปัตตานี แต่เนื่องจากอส.ทพ.ธันยา ซึ่งอาการหนัก แพทย์ระบุว่าต้องส่งต่อไปรักษาตัวที่รพ.หาดใหญ่ ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเป็นทหารอีก 3 นายและชาวบ้าน 1 รายขณะนี้อาการปลอดภัยแล้ว

ส.อ.ธีรวุฒิ เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ในทุกเช้าตนและลูกน้องจะปฏิบัติหน้าที่ดูแลเส้นทางให้กับครูโรงเรียนบ้าน ตะบิ้ง ปกติจะเดินด้วยเท้าในการลาดตระเวน แต่ในวันนี้จะต้องเดินทางไปซื้อของด้วย จึงใช้รถกระบะในการเดินทาง แต่ก่อนถึงที่เกิดเหตุ 20 เมตร ตนก็เพิ่มความระมัดระวังอยู่แล้ว เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่กำลังก่อสร้างและล่อแหลม ตนจึงจัดกำลังให้ลูกน้องพร้อมกับตน รวม 4 นาย ลงจากรถ เพื่อตรวจสอบความปลอดภัย โดยจัดกำลังให้ลูกน้อง 2 นาย เดินลาดตระเวนไหล่ทาง ส่วนตนกับลูกน้องอีก 1 นาย เดินบนถนน ซึ่งจากการตรวจสอบไม่พบสิ่งต้องสงสัย จึงให้ลูกน้องที่อยู่บนรถทั้ง 5 นาย โดย 4 นาย ที่เสียชีวิตอยู่กระบะหลังและคนขับ ให้เคลื่อนรถแต่เมื่อเคลื่อนรถถึงจุดเกิดเหตุก็เกิดระเบิดทันที ทำให้ตนถูกชิ้นส่วนรถกระแทกเข้าที่หน้าอก ได้รับบาดเจ็บสาหัส

“ผมเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คิดว่าตัวเองไม่น่ารอด น่าจะเป็นผมดีกว่าที่เสียชีวิต เพราะผมไม่อยากให้ลูกน้องต้องจบชีวิตแบบนี้ และผมก็พร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่ เพื่อดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนในพื้นที่ต่อไป” ส.อ.ธีรวุฒิ กล่าว

สำหรับ การติดตามคนร้ายนั้น พล.ต.จตุพร กลัมพสุต ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี สั่งตั้งศูนย์ควบคุมเหตุการณ์ติดตามไล่ล่ากลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุแล้ว โดยได้ประสานแผนปฏิบัติการร่วม 3 ฝ่าย ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ออกหาข่าวความเคลื่อนไหวและสั่งทุกจุดตรวจจุดสกัดร่วมตรวจเข้มรถและบุคคลเป้าหมาย ที่อาจจะหลบหนีออกนอกพื้นที่

จากรายงานข่าวการสืบสวนสอบสวนมีความคืบหน้าทางคดีในส่วนกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุแล้ว คือกลุ่มนายยาการีนา บาโง กับกลุ่มนายสะมาลี สะนิ แกนนำสั่งการและปฏิบัติการกลุ่มอาร์เคเค ร่วมกันก่อเหตุ ซึ่งก่อนนี้มีการแจ้งเตือนพบการเคลื่อนไหวเข้ามาเตรียมการก่อเหตุมาแล้ว 2 วัน จึงสั่งให้ทุกหน่วยมีการเพิ่มความเข้ม แต่จากคนร้ายเลือกเส้นทางที่กำลังมีการซ่อมแซม ยากต่อการตรวจตราและระวังจนกลายเป็นจุดอ่อนต่อการก่อเหตุได้ง่ายขึ้น โดยคนร้ายอาศัยช่วงที่คนงานหยุดพักทุกวันศุกร์นำระเบิดมาฝังไว้ในช่วงกลางดึก

ทั้งนี้ พล.ต.จตุพร กลัมพสุต ผบ.ฉก.ปัตตานี มีคำสั่งให้จัดกำลังเข้าปิดกั้นเส้นทางที่เกิดเหตุชั่วคราว เนื่องจากมีความจำเป็นต้องปรับแผนในการดูแลและเฝ้าระวังป้องกันควบคู่ไปกับ การจัดชุดออกติดตามหาข่าวล่ากลุ่มคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุมาดำเนินคดี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน