จังหวัดเพชรบุรีจัดพิธีรับศพทหารพรานผู้กล้าพลีชีพในการปฏิบัติหน้าที่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กลับภูมิลำเนา ประกอบพิธีทางศาสนาก่อนจะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพในวันที่ 27 ก.ย. ที่วัดป่าเด็ง แก่งกระจาน

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 23 ก.ย. ที่สนามมณฑลทหารบกที่ 15 เพชรบุรี มีพิธีรับศพทหารพรานพิทักษ์คมศิต ศักดิ์วิเศษสม อายุ 21 ปี ที่เสียชีวิตด้วยเหตุระเบิดในขณะปฏิบัติหน้าที่ออกลาดตระเวนดูแลความปลอดภัยให้กับครูและนักเรียน โรงเรียนบ้านตะป้ง อำเภอสายบุรี จังหวัดเพชรบุรี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 22 ก.ย. ที่ผ่านมา กลับสู่ภูมิลำเนา ที่ม.6 บ้านป่าเด็งใต้ ตำบลป่าเด็ง อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร่างของทหารพราน พิทักษ์คมศิต ถูกนำขึ้นเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพบกจากสนามบินบ่อทอง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี กลับสู่บ้านเกิด บรรยากาศในพิธีเต็มไปด้วยความโศกเศร้า โดยเฉพาะครอบครัวของทหารพรานพิทักษ์คมศิตที่เดินทางมารับศพลูกชาย โดยผู้เป็นแม่คือนางซ้วยซิโพ้ ศักดิ์วิเศษสม อายุ 43 ปี ร้องไห้ตลอดเวลา โดยมีลูกๆและญาติต้องคอยประคองระหว่างเดินไปรับศพลูกชาย และก่อนจะนำร่างที่บรรจุอยู่ในโลงคลุมด้วยธงชาติลงลงจากเฮลิคอปเตอร์ พล.ต.สุรินทร์ นิลเหลือง ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 15 ทอดผ้าไตรจีวร 1 ชุด บริเวณด้านหน้าศพ

จากนั้นพระสงฆ์จากวัดป่าเด็งที่เดินทางมาด้วยได้พิจารณาผ้าไตร ก่อนที่ทหารช่วยกันนำร่างทหารพรานพิทักษ์คมศิต ออกจากเฮลิคอปเตอร์ขึ้นไปยังรถบรรทุกของมณฑลทหารบกที่ 15 ที่จัดเตรียมไว้ โดยมีทหารจากมลฑลทหารบกที่ 15 เจ้าหน้าที่สำนักงานสงเคราะห์ทหารผ่านศึกเขตราชบุรี นำโดยนายไสว ม่วงศรี รองหัวหน้าสำนักงานสงเคราะห์ทหารผ่านศึกเขตราชบุรี ข้าราชการจากหน่วยงานต่างๆ นำโดย นายณัฐวุฒิ เพชรพรหมศร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ร่วมพิธีรับศพกันอย่างพร้อมเพรียง

ทั้งนี้ ร่างทหารพรานพิทักษ์คมศิต จะเคลื่อนย้ายไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดป่าเด็ง ตำบลป่าเด็ง จะสวดพระอภิธรรมศพไปจนถึงคืนวันที่ 27 ก.ย. และจะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพ โดยในคืนนี้ทางมณฑลทหารบกที่ 15 จะเป็นประธานในพิธีสวดพระอภิธรรมศพ เป็นคืนแรก

นายกิตติศักดิ์ ศักดิ์วิเศษสม อายุ 49 ปี พ่อของทหารพรานพิทักษ์คมศิต กล่าวว่า ฐานะทางบ้านไม่ได้ร่ำรวย ประกอบอาชีพรับจ้างและทำการเกษตร ครอบครัวมีลูกทั้งหมด 5 คน เป็นบุตรสาว 4 คน บุตรชายคนเดียวคือทหารพรานพิทักษ์คมศิต โดยลูกชายเป็นคนที่ 3 มีนิสัยร่าเริง หลังเรียนจบมัธยมศึกษาปีที่ 6 จากโรงเรียนป่าเด็งวิทยา ลูกชายออกมาช่วยพ่อแม่ทำงาน ทำการเกษตร โดยลูกชายมีความประสงค์จะรับใช้ชาติด้วยการเป็นทหาร และต้องการจะเป็นทหารให้ได้ จึงได้ไปสมัครเป็นทหารพราน จนได้ไปปฏิบัติการอยู่ทางภาคใต้ แม้จะรู้ว่าเสี่ยงต่อชีวิต และลูกชายไม่เคยกลัว ระหว่างไปปฏิบัติงาน ก็โทรศัพท์มาสอบถามพูดคุยกับพ่อแม่ พี่น้อง อยู่ทุกวัน เป็นเวลาร่วม 2 ปี ที่เขาไปประจำการอยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

“ก่อนจะประสบเหตุเสียชีวิตก็ยังโทรมาพูดคุยปกติ ตอนแรกไม่เชื่อเหมือนกันว่าลูกจะเสียชีวิต แต่เมื่อเป็นความจริง คนเป็นพ่อและแม่ พี่น้อง ก็ต้องเสียใจ โดยเฉพาะภรรยา เศร้าโศกเสียใจตลอดเวลา เนื่องจากครอบครัวมีลูกชายคนเดียว แต่อย่างไรก็ตามก็รู้สึกภูมิใจ เพราะลูกชายตั้งใจรับใช้ชาติ และความตั้งใจของเขาก็ประสบความสำเร็จ ถือว่าเขาได้มีศักดิ์ศรีของเขาก่อนจะจากไป และขอฝากถึงทหารกล้าทุกนาย ขออย่าท้อขอให้สู้ต่อไปกับหน้าที่การเป็นทหาร เพราะเราอยู่ประเทศเราก็ต้องรักประเทศเรา ขอส่งกำลังใจไปยังทหารและผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่รับใช้ชาติโดยเฉพาะใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ทุกนาย ให้ต่อสู้กันต่อไป” นายกิตติศักดิ์ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน