เมื่อวันที่ 25 ก.ย. กรมราชทัณฑ์เผยแพร่เอกสารข่าวชี้แจงกรณีการแพร่ระบาดวัณโรคในเรือนจำหลายแห่ง รวมทั้งมีการแพร่เชื้อไปยังผู้ต้องขังรายอื่น เนื่องจากพื้นที่ที่จำกัดการควบคุมโรคและการคัดแยกผู้ป่วยทำได้ยากขึ้น ว่า จากสถานการณ์วัณโรค ประเทศไทยติดอันดับในกลุ่ม 14 ประเทศ ที่มีปัญหาภาวะวัณโรคสูง ทั้งวัณโรคทั่วไปและวัณโรคดื้อยา ซึ่งความชุกในประเทศไทยคือ 171 คนต่อประชากร 100,000 คน วัณโรคมักเกิดกับประชากรที่มีเศรษฐานะต่ำ ซึ่งเป็นกลุ่มประชากรที่เข้ามาอยู่ในเรือนจำ

เอกสารข่าวระบุต่อว่า ประกอบกับเรือนจำมีความแออัดสูงมากในปัจจุบัน ทำให้เกิดการติดต่อโรคทางเดินหายใจได้ง่าย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) โดยสำนักวัณโรค กรมควบคุมโรคติดต่อ สปสช. และกรมราชทัณฑ์ จึงเห็นความสำคัญในการคัดกรองผู้ป่วยด้วยวาจา การถ่ายภาพรังสีทรวงอก 100 เปอร์เซ็นต์ และตรวจเสมหะผู้ป่วยที่สงสัยด้วยเครื่อง Gene-x-Pert จึงพบผู้ป่วยวัณโรคเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ซึ่งปัจจุบันพบผู้ป่วยวัณโรคในเรือนจำ 142 แห่ง ทั้งสิ้น 3,368 คน จากผู้ต้องขัง 310,000 คน เทียบเป็นความชุก 1,086 คนต่อประชากร 100,000 คน

ทั้งนี้ ผู้ที่ถูกรับการวินิจฉัยว่าเป็นวัณโรคจะได้รับยารักษาอยู่ในห้องที่แยกการควบคุมในระยะแพร่เชื้อ 2 เดือนแรก จากนั้นเมื่อพ้นระยะติดต่อแล้วมีการควบคุมการกินยาทุกวันจนกว่าจะหายขาด ส่วนการป้องกันได้มีการแจกหน้ากากอนามัยกับเจ้าหน้าที่และผู้ต้องขังอื่นในเรือนจำ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน