เมื่อวันที่ 25 ก.ย. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชานุญาตให้องค์กรภาคเอกชน มูลนิธิ และสมาคมต่างๆ ร่วมเป็นเจ้าภาพบำเพ็ญกุศลถวายพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง เป็นวันที่ 246 ภายหลังเสร็จสิ้นพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสตมวาร โดยวันนี้มีผู้ร่วมเป็นเจ้าภาพจำนวน 44 คณะ แบ่งเป็น 4 รอบ ได้แก่ เวลา 10.30 น., 14.30 น., 17.00 น. และ 19.00 น.

วันเดียวกัน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นักเรียนจากโรงเรียนช่างฝีมือในวัง (หญิง) ทำอาหารและขนมไทยโบราณมาร่วมแจกให้กับพสกนิกรที่เดินทางมากราบสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่เต็นท์อาหารพระราชทานของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตั้งอยู่บริเวณทางออกประตูวิมานเทเวศร์ ในพระบรมมหาราชวัง ประกอบด้วย โกยซีหมี่กุ้ง-ปลาหมึก-แฮม, ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่, ข้าวขนมจีน-แกงเผ็ดเป็นย่าง ข้าวผัดฉ่าปลาช่อนทอด และขนมประเพณี 4 ถ้วย(ลอดช่อง)

สำนักพระราชวังสรุปยอดรวมประชาชนที่เดินทางมากราบสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง เมื่อวันที่ 24 ก.ย. หลังสำนักพระราชวัง ปิดไม่ให้ประชาชนเข้าพระบรมมหาราชวัง เพื่อขึ้นกราบสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในเวลา 00.20 น. ของวันที่ 25 ก.ย. จากกำหนดเดิมเวลา 21.00 น. เนื่องจากยังมีประชาชนเข้าแถวรอกราบสักการะพระบรมศพในมณฑลพิธีสนามหลวงเป็นจำนวนมาก ว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 62,261 คน รวม 326 วัน มี 11,195,952 คน และมีประชาชนถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นเงิน 9,201,412 บาท รวม 326 วัน เป็นเงินทั้งสิ้น 829,526,113.51 บาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้เป็นวันที่ 328 ที่มีพระราชทานพระราชานุญาตให้ประชาชนเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง โดยสำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนกลุ่มแรกเข้าทางประตูวิเศษไชยศรีในเวลา 05.00 น. ซึ่งมีประชาชนจากทั่วสารทิศเดินทางมาเข้าคิวรอกราบถวายบังคมพระบรมศพอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน โดยท้ายคิวของจุดคัดกรองบริเวณพระแม่ธรณีบีบมวยผม ฝั่งโรงแรมรอยัล รัตนโกสินทร์ ยาวไปจนถึงหน้ากองสลากเก่า ซึ่งในวันที่ 30 ก.ย.นี้ สำนักพระราชวังจะเปิดให้เข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพเป็นวันสุดท้าย

นางทำนอง พิมพ์วงศ์ อายุ 74 ปี ชาวบ้าน ต.ในเมือง อ.พล จ.ขอนแก่น กล่าวว่า เพิ่งเคยมากราบพระบรมศพเป็นครั้งแรก ใจจริงอยากมาตั้งนานแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาส ยิ่งพอมีประกาศว่าจะเปิดวันที่ 30 ก.ย. เป็นวันสุดท้าย ก็คิดว่าจะไม่ได้มา แต่ปรากฏว่ามีเพื่อนๆ ในหมู่บ้านชวนกันเหมารถมา รวม 12 คน จึงได้ออกเดินทางจากขอนแก่นตั้งแต่ 4 ทุ่มเมื่อคืน และมาถึงสนามหลวงประมาณตี 3 ก่อนได้เข้ากราบพระบรมศพตอนบ่ายโมงครึ่ง แม้จะร้อนหรือรอนานแค่ไหนก็ทนได้ รู้สึกปลาบปลื้มและดีใจที่สุดในชีวิตที่ได้มากราบ ตนอธิษฐานขอให้พระองค์เสด็จสู่สวรรคาลัย

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน