กองปราบ บุกห้องเช่าจับ ลุงหื่น ขืนใจหลานเมีย วัย 13 ปี ขู่ซ้ำจนเหยื่อหวาดผวา ก่อนความแตกเร่งหนีคดีออกจากพื้นที่ เป็นเวลานาน 17 ปี เผยคำสารภาพ
วันที่ 11 พ.ย.2563 ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.5 บก.ป. พร้อมด้วย ร.ต.อ.สุขสิทธิ์ ประเสริฐ สว.กก.5 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุม นายพันทอง (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 58 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่ จ.1882/2546 ข้อหา “ข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงยังอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งมิใช่ภรรยาของตน โดยเด็กหญิงนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม” ได้ที่หน้าห้องเช่าไม่มีชื่อ ม.7 ต.คลองกิ่ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
สืบเนื่องจากเมื่อปี 2546 ขณะนั้นนายพันทองยังทำงานเป็นรปภ.อยู่ที่บริษัทแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา โดยพักอาศัยอยู่ในห้องเช่ากับภรรยา และยังรับด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 13 ปี หลานของภรรยามาอุปการะเนื่องจากพ่อแม่แยกทางกัน
กองปราบ บุกห้องเช่าจับ ลุงหื่น ขืนใจหลานเมีย วัย 13 ปี ขู่ซ้ำจนเหยื่อหวาดผวา
ปรากฏว่า ระหว่างนี้นายพันทองกลับอาศัยจังหวะที่อยู่ในห้องพักกับด.ญ.เอตามลำพัง ก็ได้ใช้กำลังบังคับข่มขืนจนสำเร็จความใคร่พร้อมข่มขู่ห้ามนำเรื่องไปบอกผู้อื่น ทำให้ผู้เสียหายเกิดความหวาดกลัว ส่วนผู้ต้องหาก็เกิดย่ามใจและลงมือก่อเหตุเรื่อยมาเป็นเวลานานกว่า 1 ปี
ต่อมาป้าของด.ญ.เอได้เดินทางมาเยี่ยมหลานสาวที่บ้านพัก ก็เลยสังเกตเห็นว่าหลานสาวมีอาการเซื่องซึม ไม่ปกติ เมื่อสอบถามจนทราบเรื่อง จึงรีบพาหลานเข้าแจ้งต่อพนักงานสอบสวนของสภ.สนามชัยเขต เพื่อให้ดำเนินคดี จนทำให้ผู้ต้องหาต้องรีบหลบหนีไป หลังจากคดีผ่านมานานกว่า 17 ปี กระทั่งเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมทราบว่า ปัจจุบันผู้ต้องหาหลบหนีมาทำงานอยู่ที่อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี จึงเข้าจับกุมตัวได้ดังกล่าว
จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพ โดยอ้างว่า ที่ทำลงไปก็เพราะว่าเมาสุราแล้วเกิดอารมณ์ทางเพศ จึงเลยก่อเหตุขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวส่ง สภ.สนามชัยเขต เพื่อดำเนินคดีต่อไป
