ตร.บางรัก ตามล็อกตัวหนุ่มตระเวนกระชากสร้อยอาม่า-คนแก่ พบประวัติสุดแสบก่อคดีมานับไม่ถ้วน เค้นสอบสารภาพจะนำเงินไปใช้จ่ายส่วนตัว โดยจะเลือกเหยื่อที่เป็นหญิงสูงอายุ

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 13 พ.ย. พ.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัส ผกก.สน.บางรัก นำโดย พ.ต.ท.สาธิต สอนชา รอง ผกก.สส.สน.บางรัก, พ.ต.ท.พิระวัตร์ วงศ์ศิริเมธีกุล และ พ.ต.ท.อนุพงษ์ อรุณคีรีโรจน์ สว.สส.สน.บางรัก พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.บางรัก

ร่วมกันทำการจับกุมนายจารึก หรือหนึ่ง ช้างสว่าง อายุ 48 ปี ข้อหาวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.589/2563 ลงวันที่ 11 พ.ย. 2563

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

พร้อมด้วยกลาง รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น พีซีเอ็กซ์ สีขาว ติดแผ่นป้ายทะเบียน สมร 406 กรุงเทพมหานคร เสื้อยืดคอกลม สีขาว มีลายสีแดงบริเวณหน้าอก จำนวน 1 ตัว กางเกงยีนส์ ขายาว จำนวน 1 ตัว รองเท้าแตะ สีน้ำตาล จำนวน 1 คู่ รองเท้าผ้าใบ สีขาว ยี่ห้อ CONVERSE ขนาดไซส์ 9 จำนวน 1 คู่ จับกุมบริเวณริมถนนหน้าบ้านเลขที่ 99/116 หมู่บ้านธีรินทร์ แขวงบางด้วน เขตภาษีเจริญ กทม.

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 7 พ.ย. ที่ผ่านมา น.ส.สุพัตรา วงศ์สิริพิทักษ์ อายุ 64 ปี และ น.ส.ญานิกา วงศ์สิริพิทักษ์ อายุ 69 ปี ได้มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.บางรัก ว่า เมื่อวันที่ 7 พ.ย.เวลาประมาณ 10.00 น. ที่ผ่านมาขณะที่ผู้แจ้งอยู่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 243/1 ซ.สะพานยาว แขวงสี่พระยา เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร ได้มีคนร้ายเป็นชาย ไม่ทราบชื่อนามสกุล ขับขี่รถจักรยานยนต์ มาทำทีขอช่วยเข็นรถเข็น จากนั้นได้ใช้ 2 มือกระชากเอาสร้อยคอทองคำทั้งสองคนหนักเส้นละ 2 บาทของผู้แจ้งไป จากนั้นได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป จึงมาแจ้งความร้องทุกข์ให้ติดตามหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดี

ส่วนแนวทางการสืบสวนนั้น ชุดสืบสวนได้ดำเนินการสืบสวนเก็บรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องจนทราบว่าคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุนั้น มีตำหนิรูปพรรณ รวมทั้งการแต่งกายในการเข้าก่อเหตุ คือ คนร้ายเป็นชาย รูปร่างท้วม สูงประมาณ 175 ซม. ผิวดำแดง สวมหมวกนิรภัยสีดำมีลาย สวมเสื้อแขนยาวสีขาว สวมกางเกงยีนส์ขายาวสีฟ้า รองเท้าผ้าใบสีขาว ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น PCX สีขาว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน

จากการตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ที่คนร้ายใช้เป็นเส้นทางในการหลบหนี เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสามารถตรวจสอบพบพฤติกรรมการกระทำความผิดของคนร้ายจากกล้องวงจรปิด จนทราบตำหนิรูปพรรณของคนร้ายและได้จัดทำรายงานสืบสวนส่งมอบให้พนักงานสอบสวน

ต่อมาวันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สน.บางรัก ได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญากรุงเทพใต้เพื่อขอหมายจับบุคคลตามตำหนิรูปพรรณและศาลอาญากรุงเทพใต้ได้ประทานอนุญาตหมายจับที่ จ.589/2563 ลงวันที่ 11 พฤศจิกายน 2563 ข้อหา “วิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป” และได้ประกาศสืบจับไว้แล้ว

จนกระทั่งเมื่อ 12 พ.ย.เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.บางรัก ได้สืบสวนติดตามจับกุมบุคคลตามหมายจับดังกล่าวมาโดยตลอด จนทราบว่าบุคคลตามหมายจับดังกล่าวได้หลบหนีและซุกซ่อนตัวอยู่ที่บ้านเลขที่ 99/116 หมู่บ้านธีรินทร์ แขวงบางด้วน เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ร่วมกันเดินทางไปตรวจสอบยังบ้านพัก แขวงบางด้วน เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร จนกระทั่งเวลาประมาณ 10.00 น. พบชายซึ่งมีตำหนิรูปพรรณตรงตามหมายจับออกมาจากบ้าน และยืนอยู่บริเวณริมถนน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงเข้าไปแสดงตัวให้นายจารึก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงหมายจับให้นายจารึก

จากการสอบถามผู้ถูกจับกุมให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาจากการซักถามมีมูลเหตุจูงใจในการกระทำความผิดคือจะนำเงินไปใช้จ่ายส่วนตัว โดยจะเลือกเหยื่อที่เป็นหญิงสูงอายุ เพื่อจะได้ง่ายต่อการประทุษร้าย โดยหลังจากก่อเหตุจะเลือกเส้นทางหลบหนีที่ไม่มีป้อมและด่านตำรวจ

ซึ่งผู้ต้องหาได้แวะเปลี่ยนเสื้อและรองเท้าภายในซอยจันทน์ 43 แยก 6 อีกทั้งเมื่อถึงซอยเพชรเกษม 48 แยก 4-7 ผู้ต้องหาได้ถอดหมวกกันน็อกทิ้ง และนำเสื้อแขนยาวทิ้ง จากนั้นได้ขับหลบหนีต่อไป เพื่อหลบหนีการติดตามของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

จากการตรวจสอบประวัติการต้องโทษมีหมายจับ จำนวน 5 หมาย จับกุมแล้วทั้ง 5 หมาย วิ่งราวทรัพย์ สน.บางรัก พ.ศ.2557 จำนวน 1 หมายจับ วิ่งราวทรัพย์ สน.พลับพลาไชย 2 พ.ศ.2557 จำนวน 4 หมายจับ และถูกจำคุกที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพเมื่อวันที่ 24 มิ.ย57 พ้นโทษ 18 ส.ค.61 เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนสน.บางรัก ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน