จับแล้วพ่อลูกทีมฆ่าลูกจ้าง ทำเนียนขี่รถจยย.ผ่านด่านตรวจ ตร.จำได้จึงรวบตัว ก่อนปฏิเสธข้อกล่าวหาขอให้การในชั้นศาล จนท.มีหลักฐานมั่นใจเอาผิดได้ ไม่ให้ประกันตัวหวั่นหลบหนี
จากกรณีนายสมนึก สมัยกาญจน์ อายุ 51 ปี และนายสยมภู สมัยกาญจน์ อายุ 28 ปี 2 พ่อลูก อยู่บ้านเลขที่ 94/1 หมู่ 13 ต.เทพราช อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ใช้ปืนลูกซองสั้นจ่อยิงหัว นายอดิศักดิ์ แซ่หลี อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 73 หมู่ 13 ต.เทพราช อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ลูกจ้างหนุ่มเสียชีวิตเมื่อคืนวันที่ 23 ก.ย. สาเหตุมาจากผู้ตายไปทวงเงินค่าจ้าง 5,000 บาท จากพ่อลูกไม่ได้ จึงมีเรื่องชกต่อยกัน ก่อนพ่อลูกจะตามไปยิงจนเสียชีวิต ต่อมาศาลออกหมายจับตามที่เสนอข่าวไปนั้น
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 27 ก.ย. พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า ตนได้สั่งการให้ระดมกำลังไล่ล่าติดตามจับกุม 2 พ่อลูกให้ได้โดยด่วนเนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ ทางชุดสืบสวน สภ.เปลี่ยน อ.สิชล นำหลักฐานไปขอหมายศาลออกหมายจับ และศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชอนุมัติหมายจับเลขที่ 348/2560 และหมายจับเลขที่ 359/2560 ลงวันที่ 25 ก.ย.60 ออกหมายจับนายสมนึกและนายสยมภู
ต่อมา พ.ต.อ.สำเริง ชูกะนันท์ ผกก.สภ.เปลี่ยน อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ได้รับรายงานจาก พ.ต.ท.สมชาย มวยดี รอง ผกก.ป.และ พ.ต.ท.สมเชิญ ทองใหญ่ รอง ผกก.สส. ว่าสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับ 2 พ่อลูกได้ที่ด่านตรวจบ้านเขาหิน-เขาทราย หมู่ 6 ต.เปลี่ยน อ.สิชล ขณะขับรถจักรยานยนต์ผ่านมา ซึ่งเมื่อเห็นด่านตรวจแสดงท่าทางมีพิรุธ และตำรวจจำได้ว่าเป็นนายสมนึกและนายสยมภู จึงจับกุมตัวไว้
ต่อมาทางชุดจับกุมได้ควบคุมตัวนายสมนึกและนายสยมภู ไปสอบสวนปากคำ ทั้ง 2 ได้แต่ยอมรับว่าชื่อตรงกับหมายจับ แต่ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และไม่ขอให้การในชั้นสอบสวน แต่จะขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น หลังจากนั้นก็ได้ติดต่อญาติให้นำหลักทรัพย์มายื่นขอประกันตัว แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่อนุญาตให้ประกันตัว เนื่องจากเกรงว่าจะหลบหนี ก่อนจะควบคุมตัวเข้าห้องขังเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
พ.ต.อ..สำเริง ชูกะนันท์ ผกก.สภ.เปลี่ยน อ.สิชล กล่าวว่า แม้ผู้ต้องหาจะปฏิเสธ แต่พยานหลักฐานชัดเจน มั่นใจว่าจะสามารถดำเนินคดี 2 พ่อลูกในข้อกล่าวหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนติดตัวไปในหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันควร โดยในวันนี้จะส่งตัวทั้ง 2 ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชต่อไป
