เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 25 พ.ย.63 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วย นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผวจ.สมุทรสาคร นายสมหมาย เตชวาล อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี และนายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ลงพื้นที่ ต.อำแพง อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร เพื่อติดตามการสำรวจขุดค้นโครงกระดูกวาฬ หลังได้รับแจ้งการค้นพบเมื่อวันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมา อ่านข่าว พบโครงกระดูกวาฬพันปี สมัยเมืองสมุทรอยู่ใต้บาดาล

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

ซึ่งการสำรวจขุดค้นซากวาฬตามหลักวิชาการในพื้นที่ได้มีการดำเนินการโดยกรมทรัพยากรธรณี กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และหน่วยงานในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง โดยได้รับความอนุเคราะห์และความร่วมมือจากเจ้าของพื้นที่ ผลการสำรวจขุดค้นเพิ่มเติม พบว่าชิ้นส่วนกระดูกวาฬสะสมตัวอยู่ในตะกอนดินเหนียวทะเลโบราณ

ซากดึกดำบรรพ์วาฬที่พบมีการเปลี่ยนสภาพจากการแทนที่ของแร่ธาตุอื่นยังไม่สมบูรณ์ ส่วนใหญ่มีสภาพค่อนข้างเปราะบาง ดังนั้นจึงเร่งสำรวจขุดค้น ตั้งแต่วันที่ 9–15 พ.ย. พบกระดูกวาฬอีกหลายชิ้นที่เรียงตัวต่อเนื่อง และขุดค้นได้มากกว่า 50% ประกอบไปด้วย กระดูกสันหลังที่สมบูรณ์ 19 ชิ้น กระดูกซี่โครง ข้างละ 5 ชิ้น สะบักไหล่และแขน (ครีบ) ด้านซ้าย

ต่อมาได้เข้าพื้นที่เพื่อสำรวจเพิ่มเติมอีกครั้งเมื่อวันที่ 23 พ.ย. เป็นต้นมา ผลการจุดค้นพบชิ้นส่วนกระดูกวาฬเพิ่มเติม รวมมากกว่า 80% ได้แก่ กระดูกสันหลังส่วนลำตัวถึงส่วนคอ กระดูกซี่โครง และกะโหลกพร้อมขากรรไกรสภาพสมบูรณ์ หลังจากนี้จะนำตัวอย่างไปอนุรักษ์ในห้องปฏิบัติการและเตรียมศึกษาวิจัยเพื่อระบุสายพันธุ์ต่อไป

นอกจากโครงกระดูกวาฬ คณะสำรวจยังพบซากสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ในบริเวณโดยรอบ อาทิเช่น ฟันฉลาม ฟันกระเบน เปลือกหอย ปูทะเล เพรียงทะเล และเศษไม้ และได้นำตัวอย่าง เปลือกหอย ซากพืช และกระดูกวาฬ ส่งวิเคราะห์หาอายุด้วยวิธีศึกษาธาตุคาร์บอน-14 (C-14) คาดว่าจะทราบผลประมาณอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า

ทั้งนี้จากการพบโครงกระดูกวาฬบนแผ่นดินซึ่งห่างจากขายฝั่งทะเลปัจจุบันประมาณ 12 กิโลเมตร ในครั้งนี้เป็นหลักฐานสำคัญที่บ่งชี้ถึงการรุกของน้ำทะเลเข้ามาในแผ่นดินเมื่อหลายพันปีก่อน อีกทั้งสามารถศึกษาประวัติและวิวัฒนาการของวาฬและสัตว์ทะเลในอดีต และได้เห็นถึงความหลากหลายทางชีวภาพจากการพบซากสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ร่วมกับวาฬ นอกจากนี้ผลที่ได้จากการสำรวจด้วยวิธีการเจาะสำรวจศึกษาชั้นตะกอนดินและเทียบสัมพันธ์ ยังช่วยในการแปลความหมายถึงสภาพแวดล้อมในอดีต และหาขอบเขตชายทะเลโบราณในพื้นที่ตำบลอำแพงนี้อีกด้วย

นายวราวุธ กล่าวว่า ภายหลังการขุดพบซากโครงกระดูกวาฬอายุประมาณ 2,000–6,000 ปี บริเวณดังกล่าว จากข้อสันนิษฐานเบื้องต้น พบว่ากระดูกที่พบมีลักษณะเดียวกับที่พบในวาฬบรูด้า ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังตรวจวิเคราะห์โดยละเอียด และบ่งชี้ได้ว่าพื้นที่ดังกล่าวสมบูรณ์มาแต่ยุคอดีต อีกทั้งเป็นเครื่องแสดงให้ทุกฝ่ายร่วมกันอนุรักษ์ ดูแลให้คงอยู่อย่างสมดุล และยั่งยืน ต่อไป

ขณะที่ในส่วนของการค้นซากวาฬเป็นกึ่งซากดึกดำบรรพ์ ที่จะต้องตรวจสอบโดยละเอียดด้วยวิธีศึกษาธาตุคาร์บอน-14 อีกครั้ง สำหรับการขุดค้นพบครั้งนี้ จุดที่พบห่างจากชายฝั่งทะเลปัจจุบันประมาณ 12 กิโลเมตร จึงเป็นหลักฐานสำคัญที่บ่งชี้ถึงการรุกของน้ำทะเลเข้ามาในแผ่นดินเมื่อหลายพันปีก่อน อีกทั้งสามารถศึกษาประวัติและวิวัฒนาการของวาฬและสัตว์ทะเลในอดีต

ด้าน นายจตุพร เปิดเผยว่า สำหรับการดำเนินการของหน่วยงานกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตนได้สั่งการให้ นายสมหมาย เตชวาล อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี เร่งรังวัดพื้นที่ พร้อมจัดทำแผนที่และผังการวางตัวของโครงกระดูกวาฬ เก็บกู้และอนุรักษ์ซากกระดูก หากจำเป็นต้องเคลื่อนย้ายต้องป้องกันมิให้เกิดความเสียหาย

นอกจากนี้ตนได้มอบหมายให้ นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง นำทีมนักวิชาการและสัตวแพทย์ ลงพื้นที่ตรวจพิสูจน์ซาก เพื่อหาอัตลักษณ์เฉพาะของวาฬ เพื่อระบุชนิดพันธุ์ที่ถูกต้องชัดเจน ซึ่งล่าสุดการขุดค้นได้มากกว่า 80% พบกะโหลกพร้อมขากรรไกรสภาพสมบูรณ์มีความยาวประมาณ 3 เมตร และความยาวทั้งตัวประมาณ 12 เมตร กระดูกสันหลังที่สมบูรณ์ 19 ชิ้น กระดูกซี่โครง ข้างละ 5 ชิ้น สะบักไหล่และแขน (ครีบ) ด้านซ้าย และกระดูกสันหลังส่วนลำตัวถึงส่วนคอ

นอกจากนี้ ตนคิดว่าในพื้นที่ดังกล่าวอาจจะมีซากดึกบรรพ์ของสัตว์ทะเลกระจายอยู่ทั่วไป ซึ่งหากพี่น้องประชาชนในพื้นที่พบเห็นซากหรือสงสัยว่าเป็นซากดึกดำบรรพ์ ขอให้แจ้งหน่วยงานของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่โดยเร็ว เพื่อจะได้ตรวจพิสูจน์และดำเนินการรักษา คุ้มครองต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน