เมื่อวันที่ 2 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้เป็นวันที่ 334 ที่มีพระราชทานพระราชานุญาตให้ประชาชนเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งมีประชาชนจากทั่วสารทิศเดินทางมาเข้าคิวรอกราบถวายบังคมพระบรมศพอย่างไม่ขาดสาย ท่ามกลางสายฝนโปรยปรายตั้งแต่ช่วงเช้า แต่ประชาชนยังคงต่อคิวอย่างไม่ย่อท้อ โดยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เลื่อนกำหนดวันสุดท้ายของการกราบถวายบังคมพระบรมศพจากเดิมวันที่ 30 ก.ย. ออกไปเป็นถึงเวลา 24.00 น. ของคืนวันที่ 5 ต.ค.

วันเดียวกัน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นักเรียนจากโรงเรียนช่างฝีมือในวัง (หญิง) ทำอาหารและขนมไทยโบราณมาร่วมแจกให้กับพสกนิกรที่เดินทางมากราบสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่เต็นท์อาหารพระราชทานของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตั้งอยู่บริเวณทางออกประตูวิมานเทเวศร์ ในพระบรมมหาราชวัง ประกอบด้วย ข้าวแกงเขียวหวานคอหมูย่าง ข้าวแกงส้มผักรวม ข้าวปลาสร้อยทอดกรอบผัดพริกขิง ข้าวยำแหนมสด ก๋วยเตี๋ยวไก่-น้ำพริกเผา และมันแกงบวด

สำนักพระราชวังสรุปยอดรวมประชาชนที่เดินทางมากราบสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง เมื่อวันที่ 1 ต.ค. ตั้งแต่เวลา 00.01 น. จนถึงเวลา 24.00 น. ว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 90,300 คน ซึ่งมากที่สุดตั้งแต่เปิดให้ประชาชนเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รวม 333 วัน มี 11,654,402 คน

และมีประชาชนถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นเงิน 4,583,095.50 บาท รวม 333 วัน เป็นเงินทั้งสิ้น 864,912,194.01 บาท ซึ่งเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวัง ได้อำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่ยังต่อคิวรอในมณฑลพิธีสนามหลวงเข้ากราบสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง จนหมดชุดสุดท้ายของวันที่ 1 ต.ค. ในเวลา 03.30 น. ของวันที่ 2 ต.ค.

นางลักษณา อนุกานนท์ อายุ 58 ปี ครูชำนาญการ วิทยาลัยเทคนิคปทุมธานี เดินทางมาพร้อมน้องสาว กล่าวว่า ออกจากที่พักเวลา 09.00 น. และเดินทางด้วยรถโดยสารประจำทางถึงท้องสนามหลวงเวลา 11.00 น. ใช้เวลารอไม่นานก็ได้เข้ากราบพระบรมศพในเวลา 11.30 น. ส่วนตัวนับเป็นครั้งที่ 4 แล้วที่ได้มา ขณะที่น้องสาวเป็นครั้งที่ 9 ด้วยความรู้สึกอยากใกล้ชิดในหลวงรัชกาลที่ 9 ให้มากที่สุด เพราะสิ่งที่พระองค์ทรงทำมาตลอดพระชนม์ชีพนั้นใหญ่หลวงนัก ทุกอย่างก็เพื่อประชาชน

“พระองค์ทรงเป็นปราชญ์ทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านดิน น้ำ วิทยาศาสตร์ รัฐศาสตร์ ศิลปศาสตร์ พระพุทธศาสนา เป็นต้น เราในฐานะครูก็สืบสานพระราชปณิธานของพระองค์ โดยประพฤติตนให้เป็นแบบอย่างที่ดี ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด เรามีความรู้อะไรที่จะทำประโยชน์ให้เยาวชนได้ก็ยินดีถ่ายทอดให้ แต่สิ่งที่ทำก็เป็นเพียงเศษเสี้ยวของพระองค์เท่านั้น แม้จะเป็นครูสอนคณิตศาสตร์ แต่ทุกครั้งได้สอดแทรกเรื่องความซื่อสัตย์ และเสียสละ” นางลักษณา กล่าว

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน