คณะกรรมการฯ ภ.8 สั่ง ‘กักยาม’ สว.การเงิน สภ.ป่าตอง และ ผกก.สภ.ทุ่งสง 3 วัน อยู่ระหว่างพิจารณาเพิ่มเป็น 15 วัน แต่ได้เลื่อนตำแหน่ง เพราะอยู่ในบัญชีผู้เหมาะสม
เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 2563 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องการอมเบี้ยเยงโควิด-19 ว่า เมื่อวันที่ 30 พ.ย. ที่ผ่านมา พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. สั่งให้ทุกหน่วยเข้ามารายงานความคืบหน้าการตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง
พล.ต.อ.วิสนุ กล่าวว่า สำหรับผลการตรวจสอบในพื้นที่บช.ภ.8 มีการภาคทัณฑ์ตำรวจสภ.ป่าตอง ซึ่งโอนเงินผิดระเบียบ ไปที่สารวัตรการเงิน ทางการเงินโอนให้ตำรวจผู้มีสิทธิ์ทันทีซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดระเบียบแต่ไม่มีเจตนาทุจริต ส่วนที่สภ.ทุ่งสง โอนถูกระเบียบ แต่ให้ผู้มีสิทธิ์ถอนเงินออกมาภายหลังมีการคืนเงินกันไปหมดแล้ว
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
โดยคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงของภ.8 สั่งกักยามสารวัตรการเงินทั้งหมด รวมทั้งกักยามพ.ต.อ.สมพงศ์ ทิพย์อาภากุล ผกก.สภ.ทุ่งสง เป็นเวลา 3 วัน ตามอำนาจเต็มของผู้บังคับการและบช.ภ.8 อยู่ระหว่างพิจารณากักยามเพิ่มเติมอีก 15 วัน ส่วนบช.น. และกองบัญชาการภาค 1-9 ทางผบ.ตร. เร่งรัดให้สืบสวนข้อเท็จจริงโดยเร็ว และรายงานผลให้ทราบภายใน 10 วัน
พล.ต.อ.วิสนุ กล่าวอีกว่า ผบ.ตร. ได้เน้นย้ำการตรวจสอบต้องยึดหลักการ 3 ข้อ คือ 1.)ต้องคืนความชอบธรรม คืนเงิน คืนเบี้ยเลี้ยง ให้ตำรวจผู้ได้รับความเสียหายอย่างครบถ้วน ถูกต้อง เพราะฉะนั้นหากใครได้รับเงินเบี้ยเลี้ยงตามสิทธิ์ ให้แจ้งมาที่ตนได้เลย 2.)ต้องยึดหลักถูกต้องตามระเบียบกฎหมาย รวมถึงมาตรฐานการลงโทษ และเป็นไปตามกรอบเวลาที่ไม่ล่าช้า
3.)การดำเนินการทั้งหมดต้องเป็นที่พอใจของตำรวจ ของสังคม เพราะฉะนั้นการลงโทษต้องมีมาตรฐาน และตรวจสอบได้ ปัจจุบันมีหน่วยที่ถูกตรวจสอบตั้งแต่ระดับกองกำกับการ ถึงโรงพัก 41 หน่วย มีข้าราชการตำรวจชั้นประทวนถึงระดับพล.ต.ต. ที่ถูกตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง 97 นาย ส่วนจะผิดหรือไม่ต้องว่ากันอีกครั้ง
โดยผบ.ตร. ยืนยันว่า เรื่องนี้มีคนทำผิดต้องถูกลงโทษ จะวินัยร้ายแรงหรือไม่ร้ายแรงก็ว่าไปตามกระบวนการ ไม่มีการช่วยเหลือใคร ทั้งนี้สำหรับรายชื่อผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดได้ส่งให้ผบ.ตร. หมดแล้ว ล่าสุดมีการปรับย้ายระดับรองผบก.-ผกก. ก็ถูกย้ายออกนอกหน่วย ทางปกครองจะพิจารณาว่าใครทำผิดจะมีมาตรการทางปกครองคู่ขนานไปด้วย
ขณะที่มีข่าวว่ามีการทุจริตเบี้ยเลี้ยงของกองร้อยควบคุมฝูงชน พล.ต.อ.วิสนุ เปิดเผยว่า เป็นการสื่อสารที่คาดเคลื่อนกรณีผู้บังคับบัญชาไม่อธิบายให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเข้าใจ เชื่อว่าไม่มีการทุจิตรในเรื่องนี้ ยืนยันเจ้าหน้าที่ได้เลี้ยเลี้ยงเต็มจำนวนทุกคน หากใครมีปัญหาก็สามารถมาแจ้งที่ตนเองได้โดยตรง
ส่วนกรณีที่พ.ต.อ.สมพงศ์ ทิพย์อาภากุล ผกก.สภ.ทุ่งสง ได้รับการแต่งตั้งให้เลื่อนระดับสูงขึ้น เป็นรองผบก.กค.ภ.8 อยู่ในบัญชีผู้เหมาะสม เกณฑ์อาวุโส 33 เปอร์เซ็นต์ ที่ต้องได้รับแต่งตั้งสูงขึ้น ซึ่งการดำเนินการทางวินัยกับการแต่งตั้งอาจจะคนละเรื่องกัน และขึ้นไปอยู่ไม่ใช่ตำแหน่งหลักเพราะฉะนั้นการที่ท่านถูกกักยาม ก็ดำเนินการต่อไป