หลานเฝ้าศพยายที่บ้าน เริ่มเน่าส่งกลิ่ม จึงเอาไปฝังเองในสวน เผยไม่ได้บอกใครว่ายายเสีย เพราะเกรงใจชาวบ้าน ตร.เร่งพิสูจน์หาสาเหตุ
วันที่ 5 ธ.ค. 63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. ที่ผ่านมา ร.ต.อ.วัฒนา อาจสาลี รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.พลับพลาชัย อ.พลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งว่าพบศพคนเสียชีวิตหลายวัน ภายในหมู่บ้านโคกเพชร ต.โคกขมิ้น จึงประสานหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรม จุด อ.ประโคนชัย เข้าร่วมตรวจสอบ พร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลพลับพลาชัย เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบ ศพ นางสอย อายุ 93 ปี ถูกฝังอยู่ข้างบ้านมีกิ่งไม้มาทับไว้
นางเหยียบ คงทันดี อายุ 69 ปี อสม.ประจำหมู่บ้าน กล่าวว่า ตนจะถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐของ นางสอย ไว้เพราะเป็นผู้ป่วยติดเตียง ทุกครั้งจะเอาบัตรไปรูดเอาสิ่งของส่วนใหญ่เป็นอาหารแห้งมาให้ โดยตนไปรูดเอาปลากระป๋อง และอาหารแห้งมาให้ แต่ไม่พบนางสอย ซึ่งปกติจะนอนอยู่ที่นอน จึงถาม นายแดง อายุ 37 ปี หลานนางสอย ที่อยู่ด้วยกันเพียง 2 คนภายในบ้านว่า ยายสอย อยู่ไหน
โดยนายแดง บอกว่า ยายเสียแล้วเอาไปฝังแล้ว เมื่อไปดู จึงพบร่าง นางสอย ถูกฝังอยู่ข้างบ้าน ส่งกลิ่นเหม็นคลุ้ง จึงแจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านทราบ เพื่อให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ ขณะนี้ยังไม่มีใครรู้สาเหตุ โดยนายแดง เคยมีประวัติเสพยามาก่อน เคยมีภรรยาอยู่ที่ จ.พิษณุโลก แล้วหย่ากัน กลับมาอยู่กับยายเมื่อประมาณ 2 ปี ที่ผ่านมา
จากการสอบถาม นายแดง หลานยายสอย ทราบว่า เมื่อ 7 วันก่อนหน้านี้ ยายนอนสิ้นลมอยู่บนที่นอน แต่ไม่ได้บอกให้ใครทราบ ปล่อยให้ยายนอนอยู่ที่นอน ประมาณ 4 วัน ศพยายเริ่มส่งกลิ่นเหม็น จึงเอาแป้งมาทาให้ แต่ก็ไม่หาย จึงเอาร่างยายไปข้างบ้าน แล้วใช้เสียบขุดฝัง ก่อนเอากิ่งไม้มาวางทับไว้ ผ่านไปอีก 3 วัน กระทั่งมี อสม.มาพบ
ส่วนสาเหตุที่ไม่บอกให้ทราบ เพราะไม่อยากจะไปรบกวนชาวบ้านในช่วงหน้าเก็บเกี่ยวข้าว ประกอบกับไม่รู้จะไปปรึกษาใคร เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีใครมาสนใจชีวิตความเป็นอยู่ของตนกับยาย เงินเดือนเบี้ยคนชรา ตนไม่ได้รับ มีแต่คนอื่นมาเอาไป
ด้าน ร.ต.อ.วัฒนา อาจสาลี เผยว่า ตอนนี้ได้ส่งศพไปพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวช เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบทั้งพยานและหลักฐานอื่นมาประกอบ ก่อนจะสรุปสำนวนอีกครั้ง
