ปลัดอำเภอเกาะสมุย นำทีมลุยค้น 2 จุดเป้าหมาย ขบวนการการลักลอบตัดไม้เทียนทะเล พบถูกนำมาซุกซ่อนเพื่อจำหน่าย และได้มาโดยผิดกฎหมาย ยึดของกลางได้ 100 ต้น
เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. 2563 นายสุทธิพงษ์ ทองเรือ ปลัดอ.เกาะสมุย ร่วมกับเจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษพยัคฆ์ไพร เจ้าหน้าที่ศูนย์บริหารจัดการทรัพยากรป่าชายเลน จ.สุราษฎร์ธานี เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอ.เกาะสมุย เจ้าหน้าที่กอ.รมน.ภาค 4 พื้นที่เกาะสมุย และเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่สฎ.16 (เกาะสมุย)
ร่วมกันเข้าตรวจค้นบ้านพักจำนวน 2 จุด ยึดไม้เทียนทะเล ของกลุ่มขบวนการลักลอบตัดไม้เทียนทะเลในพื้นที่เกาะสมุย เกาะพะงัน และตามเกาะอื่น ๆ พบของกลางไม้เทียนทะเลซุกซ่อนอยู่ในบ้านพักบนเกาะสมุยจำนวนมาก
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
โดยจุดแรกเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบบ้านใน ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย หลังสืบทราบว่าบริเวณบ้านหลังดังกล่าวนำไม้เทียนทะเลมาซุกซ่อนไว้เป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่พบนายสุพรรณพงศ์ อายุ 38 ปี ชาวจ.นครศรีธรรมราช อาศัยอยู่ในที่บ้าน และพบไม้เทียนทะเล 21 ต้น
จากการสอบสวนนายสุพรรณพงศ์ ให้การว่า ไม้ดังกล่าวรับซื้อมาจากจ.ชุมพร เพื่อนำมาเพาะเลี้ยงเป็นไม้ประดับหรือบอนไซ และส่งขายต่อให้ลูกค้า แต่ไม่สามารถนำเอกสารการได้มาของไม้เทียนทะเลมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ได้ และไม่พบรอยดวงตราของพนักงานเจ้าหน้าที่
จุดที่สองเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบบ้านใน อ.เกาะสมุย พบไม้เทียนทะเล 79 ต้น พบนางสาวสุวิสา อายุ 30 ปี ชาวจ.บึกกาฬ แสดงตัวเป็นเจ้าของ แต่ไม่สามารถนำหลักฐานการได้มาของไม้มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ได้
เบื้องต้นแจ้งหาในความผิดตามคำสั่งกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ที่ 977/2563 เรื่องมาตรการคุ้มครองทรัพยากรไม้เทียนทะเล อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 3 ประกอบมาตรา 17 และ 27 แห่งพ.ร.บ.ส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ. 2558 มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นำตัวส่งพนักงานสอบสวนสภ.บ่อผุด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ไม้เทียนทะเลที่ยึดได้มีอายุนับร้อยปี ไม่สามารถประเมินความเสียหายที่มีต่อทรัพยากรธรรมชาติได้ สำหรับไม้เทียนทะเลเป็นไม้ที่ขึ้นอยู่บนหิน หรือซากปะการังริมทะเล เป็นไม้ที่โตช้า เนื้อไม้แข็ง ลำต้นและเปลือกไม้ดูเหมือนซากไม้ แต่เมื่อตัดเป็นท่อนสามารถนำไปเพาะเลี้ยงให้เจริญเติบโตได้
ทำให้เป็นที่นิยมของกลุ่มไม้ดัดหรือบอนไซทั้งในประเทศและต่างประเทศ จึงมีการลักลอบตัดเพื่อการค้าขายจำนวนมาก มีราคาซื้อขายกันตั้งแต่ต้นละ 4.5 หมื่นบาท ถึง 1.5 ล้านบาท หรือขายแค่กิ่งเล็ก ๆ ในราคา 3-4 พันบาท
