เมื่อวันที่ 4 ต.ค. นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า สำหรับภาพรวมการจัดสร้างพระเมรุมาศ เพื่อใช้ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ขณะนี้มีความคืบหน้า ร้อยละ 98.5-99.0 โดยอยู่ในขั้นตอนตกแต่งและเก็บรายละเอียดปลีกย่อยให้สมบูรณ์ โดยในวันที่ 10 ต.ค. การสร้างทั้งหมดจะแล้วเสร็จ แต่จะยังคงในส่วนนั่งร้านบริเวณพระเมรุมาศองค์กลางไว้ เพื่อใช้ในพิธียกพระนพปฎลมหาเศวตฉัตรยอดพระเมรุมาศ ซึ่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร จะเสด็จพระราชดำเนินมาเป็นองค์ประธานในพิธีในวันที่ 18 ต.ค. เวลา 17.00 น. และจะยกนั่งร้านออก ส่วนการจัดสร้างพระนพปฎลมหาเศวตฉัตรยอดพระเมรุมาศ นั้นกรมศิลปากรจัดสร้างแล้วเสร็จ
ด้าน นายก่อเกียรติ ทองผุด นายช่างศิลปกรรม สำนักสถาปัตยกรรม กรมศิลปากร ผู้ออกแบบพระเมรุมาศ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการจัดสร้างพระนพปฎลมหาเศวตรฉัตรประดับพระเมรุมาศ ว่า บริษัทผู้รับจ้างจัดทำโครงสร้างฉัตรที่เป็นผ้าสีขาวทั้ง 9 ชั้น เสร็จแล้ว อยู่ระหว่างนำมาประกอบเข้ากันในแต่ละชั้น สำหรับการออกแบบนำแบบฉัตรพระเมรุมาศของรัชกาลที่ 6 และรัชกาลที่ 8 มาเป็นต้นแบบ จัดสร้างตามแบบโบราณราชประเพณีที่ใช้สำหรับพระมหากษัตริย์
ซึ่งครั้งนี้พระนพปฎลมหาเศวตฉัตรจะมีขนาดใหญ่เป็นพิเศษ สูง 5.10 เมตร จัดทำด้วยผ้าโทเรสีขาว มีขลิบสีทองแขวนประดับห้อยจำปา ส่วนยอดเป็นทรงจอมเจดีย์ ประดับด้วยบัวกลุ่ม คั่นลูกแก้ว บัวกลุ่มเชื่อมส่วนปลีปลายที่เป็นโลหะทองแดงกลึงรับ เพื่อต่อสายล่อฟ้าใช้แสลนขาวพลาสติกใส่ในโครงสร้าง และช่วยให้การเคลื่อนไหวเป็นธรรมชาติและกลับคืนรูป สำหรับพระราชพิธียกฉัตรในวันที่ 18 ต.ค. นี้ จะต่างจากการยกฉัตรครั้งที่ผ่านมา ที่เคยยกเพียงปลายยอดเท่านั้น แต่ครั้งนี้ยกทั้งตัวฉัตร 9 ชั้น
