สิ้นพระผู้เสียสละ! อาลัย”พ่อท่านมงคล”เฝ้าวัดร้างลำพัง26ปี บิณฑบาตเลี้ยงหมา20ตัวจมน้ำท่วมใหญ่

จากกรณีพบร่าง พ่อท่านมงคล หรือหลวงม่อน กิตฺติญาโณ อายุ 65 พระภิกษุชรา เฝ้าดูแลวัดใหม่ บ้านท่าจีน ต.บางรัก อ.เมือง จ.ตรัง ลอยคว่ำหน้าจมน้ำมรณภาพ พร้อมกับซากสุนัขสีดำอีก 1 ตัว ภายในวัดที่ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร คาดตกน้ำเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 4 วัน และนับเป็นศพที่ 2 จากเหตุอุทกภัยจ.ตรัง โดยหน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรังต้องฝ่าน้ำท่วมสูงในสวนยางเข้าไปนำศพออกมาด้วยความยากลำบาก เมื่อช่วงค่ำวันที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมา

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ล่าสุดเรื่องนี้ วันที่ 10 ธ.ค.2563 ที่วัดประสิทธิชัย หรือ วัดท่าจีน พระประสิทธิโสภณ เจ้าอาวาสได้ให้พระในวัดติดต่อรับศพพระม่อน มาตั้งบำเพ็ญกุศลเป็นเวลา 3 วัน ก่อนมีพิธีฌาปนกิจศพวันที่ 12 ธ.ค.นี้ โดยนายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผวจ.ตรัง พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ได้เดินทางมาเคารพศพและร่วมไว้อาลัย นอกจากนั้น สมเด็จพระมหาธีราจารย์ กรรมการมหาเถระสมาคม เจ้าอาวาสวัดยานนาวา ยังได้มอบผ้าไตรจีวร และปัจจัยเพื่อช่วยงานศพครั้งนี้ด้วย

พระปลัดณรงค์วิทย์ สิทธิเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดประสิทธิชัย เลขานุการรองเจ้าคณะจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า พระท่านเป็นคนจ.ตรัง เป็นพระที่มีความอดทนได้สละแรงกายแรงใจทุกอย่างดูแลวัดเพียงลำพัง ซึ่งวัดใหม่มักจะน้ำท่วมทุกปีจนกระทั่งกลายเป็นวัดร้าง แต่ท่านก็มีความมุ่งมานะที่จะรักษาวัดไว้ในพระศาสนาพูดได้ว่าเป็นพระที่มรณภาพในหน้าที่ สร้างความเสียใจให้กับชาวพุธที่ต้องสูญเสียพระที่มีความเสียสละไป

 

 สิ้นพระผู้เสียสละ

 

ท่านได้จำวัดใหม่ท่าจีนมาเป็นเวลา 26 ปี หลังบวชมา 28 พรรษาบวชเสร็จก็ได้จำวัดนี้เลย อยู่เพียงรูปเดียวพร้อมหมาอีก 20 ตัว ทุกๆเช้าจะออกไปบิณฑบาต ทุกๆเช้าจะเป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตาของชาวบ้านในพื้นที่ เณรทุกรูปจะนับถือท่านซึ่งถือเป็นพระที่มีความอดทนสำหรับคนที่เป็นพระ เป็นเณร การบิณฑบาตเลี้ยงชีพนั้นถือเป็นกิจของเรา ในฐานะเป็นพระที่สังกัดอยู่วัดนี้เมื่อมรณภาพลงก็ต้องจัดงานช่วยเหลือกัน ก็จะทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพหลักในการจัดงาน พระช่วยเหลือพระถือเป็นเรื่องธรรมดา

สำหรับวัดท่าจีนใหม่นั้น เป็นวัดที่มีกาสรจัดตั้งมาเป็นเวลากว่า 200 ปี คู่กับกลวงพ่อวัน พระเกจิ แต่เนื่องจากเกิดน้ำท่วมบ่อยจึงกลายเป็นวัดร้าง และเป็นธรณีสงฆ์ในปัจจุบัน สำหรับการบูรณะใหม่นั้นถือเป็นเรื่องยาก แต่จะรักษาสิ่งที่เหลืออยู่ให้คงทน หลังจากนี้ก็น่าจะให้พระจากวัดท่าจีนนี้ไปดูแลก่อนในช่วงน้ำลด

 

 สิ้นพระผู้เสียสละ

 

ขณะที่ผู้สื่อข่าวเดินทางไปจุดพบร่างพ่อท่านมงคล โดยบรรยากาศภายในวัดเต็มไปด้วยน้ำ ซึ่งมีปริมาณลดลงอยู่ที่ประมาณ 50 ซ.ม. สามารถเดินเท้าเข้าไปได้แล้ว พบว่ากุฏิและโบสถ์อยู่ในสภาพที่เริ่มผุพัง บางหลังร้าง ภายในวัดพบสุนัขจำนวนหนึ่งว่ายน้ำไปมา และอีกส่วนหนึ่งอยู่ภายในโบสถ์ และได้เห่าหอนอย่างต่อเนื่อง

นายสุรพันธ์ หรือช่างพันธ์ สั้นเต้ง อายุ 53 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งคอยทำความสะอาด และเป็นผู้พบร่างคนแรก เปิดเผยว่า มาล้างโบสถ์และเจดีย์เป็นประจำก่อนพบศพ 3 วัน มาล้างเป็นปกติและจะเรียกหลวงม่อนทุกวัน แต่ก็ไม่ได้ยินเสียงขานรับ ซึ่งช่วง 1-2 วันแรกที่ล้างก็เริ่มได้กลิ่นเหม็นเน่าแล้ว ก็คิดว่าหมาในวัดตายเพราะน้ำท่วมวัดจนกระทั่งวันที่ 3 ช่วง 4 โมงเย็น พบว่ากลิ่นเหม็นเน่าเริ่มมากขึ้นรู้สึกแปลกใจจึงขึ้นมองจากที่สูงเพื่อดูว่ามีอะไรตาย เมื่อเห็นศพก็คิดว่าเป็นสัตว์เช่นวัว เพราะสภาพศพดำเนื่องจากถูกแดดเผาจนผิวลอก แต่เมื่อพายเรือเข้าใกล้เห็นตัวดำ และเห็นจีวรจึงมั่นใจว่าเป็นหลวงม่อนแน่นอน วินาทีแรกรู้สึกตกใจมากและไม่สามารถพายเรือได้ ก็พยายามพายเรือต่อไปจนถึงฝั่งก่อนจะประสานไปยังเจ้าหน้าที่

 

 สิ้นพระผู้เสียสละ

 

“คิดหลวงม่อนน่าจะเดินมาเก็บเครื่องปั้มน้ำข้างโบสถ์ ปกติต้องยก 2 คน แต่หลวงม่อนยกคนเดียว หลังจากเก็บเครื่องปั้มน้ำเรียบร้อยแล้วจะปิดประตูหลังโบสถ์ทันที เพราะตนสังเกตเห็นว่าประตูหลังถูกใส่กลอนไว้ แต่ช่วงที่มาล้างโบสถ์พบว่าประตูหน้าโบสถ์ไม่ได้ถูกล็อก ซึ่งปกติหลวงม่อนจะล็อกทุกครั้ง และตนต้องขอกุนแจเพื่อมาเปิดประตูเป็นประจำ คิดว่าช่วงที่หลวงม่อนกำลังจะล็อกประตูหน้าโบสถ์อาจจะลื่นตกลงไปในน้ำ ก่อนกระแสน้ำจะพัดร่างลอยไปติดโพรงหญ้า

รู้สึกเสียใจพราะมีความนับถือและมาพบหลวงม่อนบ่อย ท่านมักจะนำอาหารที่ได้ออกบิณฑบาตมาให้ผมเสมอ หลังจากนี้ก็จะยังมาดูแลวัดนี้ต่อไป ที่ผ่านมาทุกครั้งหลังจากดูแลวัดเคยขอโชคขอลาภบ้าง ก่อนจะฝันและถูกหวยมาแล้ว 11 ครั้ง แต่ก็ตั้งใจมาทำความสะอาดด้วยความตั้งใจจริง เมื่อสมัยอดีตบริเวณวัดนี้เป็นจุดที่ชาวบ้านนำรกเด็กแรกเกิดมาฝังไว้ และยังเป็นสุสานเก่าที่ฝังศพเด็กด้วย

 

อ่าน หมาหอนชวนขนลุก! กู้ภัยฝ่าน้ำท่วมความมืดกู้ร่าง”หลวงตา”เฝ้าวัดจมน้ำข้างกุฏิร้าง4วัน สังเวยศพที่2

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน