ความคืบหน้า กรณีสุกรเลี้ยงของเกษตรกรรายย่อยในพื้นที่ บ้านหนองโสน หมู่ที่ 8 ต.ท่าอ่าง อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา ตายปริศนาต่อเนื่องหลายตัว ซึ่งปศุสัตว์อำเภอโชคชัย ลงไปตรวจสอบแต่ยังไม่สามารถระบุสาเหตุการตายได้ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า เมื่อวานช่วงเย็น (14 ธันวาคม 2563) มีหมูตายอีก 1 ตัว และเช้าวันนี้ (15 ธันวาคม 2563) ตายเพิ่มอีก 1 ตัว ซึ่งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์อำเภอโชคชัย ฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อโรคในเล้าสุกรและโรงเรือนโดยรอบ พร้อมกับแจ้งรายงานผลการตรวจสอบเบื้องต้นและเก็บตัวอย่างเลือดสุกรในเล้า ส่งไปที่สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดนครราชสีมาแล้ว เพื่อนำส่งต่อไปตรวจพิสูจน์หาเชื้อโรค ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการทางสัตวแพทย์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง จ. สุรินทร์ ซึ่งไม่เกิน 3 วันจะทราบผลการชันสูตร

แต่ในช่วงนี้ นายพศวีร์ สมใจ ปศุสัตว์จังหวัดนครราชสีมา ได้สั่งกำชับไปไปยังปศุสัตว์อำเภอ ทั้ง 32 อำเภอของจังหวัดนครราชสีมา ให้แจ้งเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรทุกรายทำความสะอาดโรงเรือน และเล้าสุกร พร้อมกับฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อโรคให้ทั่ว และหากพื้นที่ใดมีสุกรตายไม่ทราบสาเหตุ ตั้งแต่ 2 ตัวขึ้นไป ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์อำเภอได้ทราบ เพื่อเข้าไปตรวจสอบ และแม้ว่าช่วงนี้จะยังไม่มีรายงานการระบาดของโรคในสุกร แต่ทุกพื้นที่จะต้องคุมเข้มเรื่องการเคลื่อนย้ายเข้าออกสัตว์

โดยเฉพาะพื้นที่มีการซื้อขาย-ขนถ่ายสุกร และในกลุ่มพ่อค้าเร่ที่เข้ามาในพื้นที่ ที่สำคัญจะต้องดำเนินการเชิงรุก Biosecurity ป้องกันทุกด้าน ทั้งการตรวจสอบฉีดพ่นฆ่าเชื้อโรคยานพาหนะ โรงเลี้ยง บุคคลที่จะเข้าโรงเลี้ยง รวมไปถึง ให้แต่ละพื้นที่สำรวจประชากรสุกรทั้งหมด และจัดโรงเลี้ยงให้สะอาดเหมาะสม เนื่องจากช่วงนี้สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง มีความเสี่ยงสูงที่สัตว์จะเจ็บป่วยได้ง่าย ประกอบกับ ในช่วงโรคโควิด-19 ยังแพร่ระบาด จึงมีคนหันมาทำปศุสัตว์กันมากขึ้น

ทำให้มีการซื้อขายสุกร โค กระบือ มากขึ้นด้วย ซึ่งแต่ละรายมาตรฐานการดูแลป้องกันโรคไม่เท่ากัน จึงเสี่ยงที่จะเป็นจุดบอดทำให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโรคได้ ดังนั้น ขอให้ผู้ที่ทำปศุสัตว์ทุกรายในพื้นที่ แจ้งขึ้นทะเบียนสัตว์กับเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ในพื้นที่ และปฏิบัติตามกฏระเบียบที่กรมปศุสัตว์กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด อย่าลักลอบเลี้ยงโดยไม่แจ้งให้ทราบ ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความสูญเสียในภาพรวม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน