เผยนาที อดีตนักมวย ฉุดนร.หญิง15 กลางวันแสกๆ กล้องวงจรปิดจับภาพชัดเจน พบวันเดียวก่อเหตุ 3 ราย ตร.แจ้ง 5 ข้อหาหนัก เตรียมทำแผน

จากกรณี ตำรวจตามจับกุม นายน้ำเพชร ภูรัตน์ อายุ 33 ปี อดีตนักมวยไทย หลังก่อเหตุ ขี่รถจยย. ฉุดทำร้ายหญิงสาววัยรุ่นจนได้รับบาดเจ็บ ก่อนอุ้มขึ้นรถจยย. โชคดีที่มีพลเมืองดีเห็นเหตุการณ์ เข้าช่วยเหลือจึงรอดได้อย่างหวุดหวิด ในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ โดยพบผู้เสียหายหลายราย และมีการแจ้งเตือนภัยในโลกโซเชียล ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 15 ธ.ค. 2563 พล.ต.ต.สมนึก มิควาฬ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ เรียกประชุม พนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ เจ้าของคดีทั้ง 3 คดี และ พ.ต.ท.สุเทพ ภูกัณหา รองผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ เข้าให้ข้อมูล เพื่อสรุปแนวทางการสอบสวนในการดำเนินคดี พร้อมกับคุมตัวนายน้ำเพชร ามาสอบปากคำเพิ่มเติม โดยแยกออกเป็น 3 คดี

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

พล.ต.ต.สมนึก กล่าวว่า จากการสอบปากคำเบื้องต้นนายน้ำเพชร ให้การรับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุฉุดหญิงสาวทั้ง 3 รายจริง โดยพฤติกรรมผู้ต้องหาจะขี่รถจยย.เข้ามาหลอกสอบถามเส้นทางเหยื่อทั้ง 3 ราย ก่อนพยายามฉุดขึ้นรถ ซึ่งรายแรกเป็นนักเรียนหญิงวัย 15 ปี ก่อเหตุที่บริเวณหน้าโรงเรียนแห่งหนึ่งในตัวเมืองกาฬสินธุ์ ช่วงเวลา 11.00 น.วันที่ 13 ธันวาคม 2563 แต่ผู้เสียหายดิ้นหลุด และรถล้ม ผู้ต้องหาจึงขี่รถหนีไป ซึ่งจุดนี้ภาพมีภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกเหตุการณ์ได้อย่างชัดเจน

พล.ต.ต.สมนึก กล่าวอีกว่า จากนั้นเวลาประมาณ 20.30 น.ผู้ต้องหาได้ขี่รถจักยายนต์มาก่อเหตุที่ถนนอภัย เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ห่างจากจุดแรกประมาณ 2 กม.พยายามฉุดหญิงสาววัย 21 ปี ที่กำลังเดินมาซื้อกับข้าวที่ตลาดหนองแซง แต่ผู้เสียหายดิ้นหลุด และวิ่งหนีไปถึงร้านอาหารปักใต้ คนร้ายจึงตามไปลงมือทำร้าย โดยการตบและเตะเหยื่อก่อนจะกระชากตัวขึ้นรถจยย.พาไปยังบ้านดอนยานาง อ.ยางตลาด ห่างจากจุดพาตัวมาประมาณ 20 กม.

 อดีตนักมวย ฉุดนร.

กระทั่งมีพลเมืองดีเข้ามาช่วยเหลือ และเกิดการทำร้ายพลเมืองดี และผู้เสียหายวิ่งไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน ก่อนที่ตำรวจมาถึงคนร้ายได้ขี่รถหนีไป จากนั้นเวลาประมาณเที่ยงคืน คนร้ายขี่รถจยย.กลับเข้ามาก่อเหตุพยายามฉุดหญิงสาวอายุ 30 ปี ที่บริเวณถนนเยื้องหน้าธนาคารธอส. ใกล้กับ 4 แยกทางลงไปสวนสาธารณะกุดน้ำกิน เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ แต่เหยื่อร้องให้คนช่วย มีพลเมืองดีช่วยเหลือได้ทัน แต่คนร้ายได้นำเอาโทรศัพท์มือถือไปด้วย

อย่างไรก็ตามได้กำชับให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำถึงมูลเหตุของของผู้ต้องหาที่ก่อเหตุ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้ง 5 ข้อหา ประกอบด้วย อนาจาร กักขังหน่วงเหนี่ยว ทำร้ายร่างกาย ชิงทรัพย์ และเสพยาเสพติด ก่อนจะคุมตัวไปชี้จุดเกิดเหตุในช่วงบ่ายวันนี้ และดำเนินคดีต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน