หนุ่มคลั่งยาถือมีดไล่ฟันพ่อแม่ กระโดดหนีตำรวจหายเข้าสวนปาล์มยังจับไม่ได้ เผยทำร้ายพ่อมาหลายครั้ง บำบัดหลายหนก็ไม่หาย

วันที่ 16 ธ.ค. 63 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองตรุด จ.ตรัง รับแจ้งเหตุลูกคลุ้มคลั่งไล่ฟันพ่อแม่ เหตุเกิดที่บ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่2 ต.หนองตรุด อ.เมืองตรัง หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ทราบตามลำดับชั้น ก่อนรุดเข้าตรวจสอบ เมื่อไปถึงพบนายเฉลียว อายุ 73 ปี และนางผัน อายุ 71 ปี หนีออกไปอยู่บ้านลูกสาวที่อยู่ใกล้กัน โดยผู้ก่อเหตุคือ นายวิสุทธิ์ อายุ 42 ปี เกิดอาการคลุ้มคลั่ง เนื่องจากเสพยาอย่างหนัก

โดยเจ้าหน้าที่ได้ใช้ยากันยุงฉีดใส่บริเวณบ้านชั้น 2 ที่ นายวิสุทธิ์ อยู่ เพื่อหวังส่งกลิ่นเหม็นจนทนไม่ได้ แต่ไม่เป็นผล จึงขอกำลังเสริมจากชุดปฏิบัติการพิเศษศรีตรัง หรือชุดสวาท สังกัดกองบังคับการตำรวจภูธร จังหวัดตรัง จำนวน 7 นาย และเข้าเจรจากับ นายวิสุทธิ์ ให้ลงมาจากชั้น2 ขอให้วางมีดพร้า แต่ นายวิสุทธิ์ พูดโต้ตอบว่า ตนไม่ได้บ้า ไม่ได้เสพยาเสพติด หรือทำผิดกฎหมาย อย่าเข้ามา

จากนั้นได้แยกกำลังออกเป็น 2 ชุด ชุดแรก จำนวน 3 นาย เข้าไปยังชั้นล่าง พร้อมชุดเจรจา ส่วนชุดที่ 2 จำนวน 4 นาย ขึ้นรถกระเช้าไปยังบ้านชั้น 2 เพื่อเตรียมจู่โจมบุกเข้าไปจับตัว ต่อมา นายวิสุทธิ์ ตกใจกระโดดลงมาจากประตูหลังบ้านชั้น 2 แล้ววิ่งหนีเข้าไปในสวนหลังบ้าน เจ้าหน้าที่ค้นหาแต่ไม่พบ เนื่องจากสถานที่ดังกล่าวมืด จึงยุติการค้นหา โดยเจ้าหน้าที่ชุดสวาทแจ้งกับ นายเฉลียว ว่า หากลูกชายกลับมาอีกขอให้แจ้ง เพื่อจะมาควบคุมตัวไปบำบัดรักษา

นางผัน กล่าวว่า ลูกชายติดยาเสพติดมาหลายปี และพาไปบำบัด ซึ่งตอนรักษาอาการก็ดีขึ้น แต่เมื่อกลับมาอยู่บ้าน เจอสภาพแวดล้อมเดิม ๆ จึงถูกชักจูงไปเสพยาเสพติดอีก จนเกิดอาการระแวง หรือเกิดอาการหลอนว่า จะมีคนมาทำร้ายมานานเป็นปีแล้ว ขนาดกับพ่อตัวเองก็ยังระแวง แต่เพิ่งมาคลุ้มคลั่งรุนแรงประมาณ 2-3 เดือนแล้ว เนื่องจากไม่ยอมกินยา และขังตัวเองในบ้านชั้น 2

เมื่อเวลาจะปัสสาวะ หรืออุจจาระ ก็จะใส่ถุงแล้วเหวี่ยงทิ้งออกมาจากบ้านชั้น 2 เป็นประจำ จนวันนี้เกิดอาการรุนแรง ใช้มีดพร้าไล่ฟันพ่อแม่ แล้วไล่ออกจากบ้าน จนต้องวิ่งหนีออกมา กลัวลูกจะทำร้าย เพราะคนเป็นพ่อเคยถูกทำร้ายมา 3 ครั้ง ล่าสุดถูกทุบด้วยไม้เข้าที่ปากและใบหน้าจนฟันของพ่อหัก 3 ซี่ กลัวว่าลูกชายจะฆ่าพ่อตัวเอง

ด้าน นายเฉลียว กล่าวว่า ตนมีลูก 4 คน นายวิสุทธิ์ เป็นลูกคนเล็ก ไม่มีครอบครัว ก่อนหน้านี้ไปทำงานต่างจังหวัด แล้วมีปัญหาทะเลาะกับเพื่อน จึงพาตัวกลับบ้านตั้งแต่ปี 2559 ซึ่งตนนั้นพูดอะไรด้วยไม่ได้ และเคยถูกทำร้ายมาแล้วหลายครั้ง กลัวมาก ต้องหนีไปนอนที่บ้านลูกสาว ไม่กล้ากลับบ้าน ตอนรักษาลูกชายก็อาการดีขึ้น แต่พอกลับมาไม่ยอมกินยาต่อเนื่อง ทำให้อาการกำเริบ และจะเถียงว่าตัวเองไม่ได้บ้า จึงอยากขอให้เจ้าหน้าที่จับตัวไปบำบัดรักษาอีกครั้ง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน