เจ้าของร้านชำ ผวา หัวขโมยคนเดิม 3 ปี ฉกทรัพย์ 8 ครั้ง แจ้งจับติดคุกยังไม่เข็ด พ้นโทษมาก่อเหตุซ้ำ ไม่เกรงกลัวกฎหมาย วอนตร.จับตัวให้ได้

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 2563 เจ้าของร้านขายของชำ ในพื้นที่หมู่ 8 ต.หนองบัว อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เผยแพร่ภาพวิดีโอจากกล้องวงจรปิด ขณะหัวขโมยรายหนึ่ง เป็นชายวัยกลางคนสวมใส่หมวกไหมพรมปิดบังใบหน้า ทำทีเป็นลูกค้ามาเดินวนเวียนอยู่หน้าร้านขายของชำ ซึ่งเจ้าของร้านปิดร้านออกไปทำธุระนอกบ้าน

โดยหัวขโมยพยายามมองลอดช่องลูกกรงหน้าร้าน พร้อมหาทางงัดแงะประตูลูกกรง เพื่อจะเข้าไปขโมยทรัพย์สินภายในร้าน โดยใช้เวลาอยู่นานหลายนาที แต่ไม่สามารถงัดประตูลูกกรงได้สำเร็จ จึงขโมยถุงโยเกิร์ตและนมเปรี้ยวที่พนักงานตัวแทนจำหน่าย นำมาส่งให้กับทางร้านและแขวนไว้ที่ประตูลูกกรงหน้าร้าน ก่อนจะเดินจากไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

นายฐานันดร์ เหมบุตร อายุ 42 ปี เจ้าของร้านขายของชำ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 2563 เวลาประมาณ 11.50 น. ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 8 แล้ว ที่หัวขโมยรายนี้เข้ามาก่อเหตุที่ร้านของตน ครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อช่วงเดือน พ.ย. 2560 คนร้ายก่อเหตุงัดประตูหน้าร้านเข้ามาขโมยทรัพย์สิน และงัดหน้าต่างข้างบ้าน ปีนเข้ามาขโมยเงินสดในลิ้นชัก เหล้าและบุหรี่ที่อยู่ภายในร้านไปเป็นจำนวนมาก

นายฐานันดร์ กล่าวต่อว่า โดยช่วงระหว่างเดือน พ.ย. 2560 ถึง ม.ค. 2561 หัวขโมยรายนี้เข้ามาก่อเหตุที่ร้าน รวม 5 ครั้ง ตนได้นำภาพวิดีโอจากกล้องวงจรปิดไปเป็นหลักฐานแจ้งความ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุม กระทั่งเดือน ก.พ. 2561 สามารถจับกุมหัวขโมยรายนี้ได้ ขณะก่อเหตุขโมยเงินจากตู้บริจาคภายในวัดลาดหญ้า ก่อนถูกดำเนินคดีและถูกจำคุกอยู่ประมาณ 2 ปี แต่เมื่อพ้นโทษออกมา ช่วงต้นปี 2563 ก็มาก่อเหตุที่ร้านของตนอีกรวม 3 ครั้ง ซึ่งกล้องวงจรปิดสามารถจับพฤติกรรมเอาไว้ได้อย่างชัดเจน

นายฐานันดร์ กล่าวอีกว่า หัวขโมยรายนี้ก่อเหตุอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย แม้แต่ช่วงกลางวันแสกๆ ที่มีรถขับผ่านไปมา ยังก่อเหตุอย่างหน้าตาเฉย โดยไม่กลัวว่าจะถูกจับกุม ตนเชื่อว่าสาเหตุที่เลือกมาก่อเหตุที่ร้านของตนซ้ำๆ น่าจะเป็นเพราะคิดว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีได้ ประกอบกับคนร้ายอาจจะมีความแค้นฝังใจ ที่เคยถูกตนแจ้งความดำเนินคดีจนต้องติดคุกอยู่เป็นปี เมื่อพ้นโทษออกมาจึงอยากที่จะมาก่อเหตุซ้ำที่ร้านของตน เพื่อเป็นการล้างแค้น

“แม้ทุกวันนี้จะพยายามหาวิธีป้องกันทรัพย์สินของตนอย่างเต็มที่ ทั้งการทำประตูลูกกรง และติดตั้งกล้องวงจรปิดจนรอบร้าน แต่ยังไม่วายถูกหัวขโมยรายนี้เข้ามาก่อเหตุขโมยทรัพย์สินไปอีก จึงอยากวอนขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับผิดชอบคดีนี้ ช่วยติดตามจับกุมหัวขโมยที่ก่อเหตุอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมายรายนี้มาดำเนินคดีให้ได้ เพราะหากปล่อยไว้เช่นนี้ ไม่รู้ว่าร้านของผมจะถูกก่อเหตุอีกกี่ครั้ง รวมถึงบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ใกล้เคียงก็มีความเสี่ยงที่จะถูกก่อเหตุเช่นกัน” นายฐานันดร์ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน