เขื่อนบางลาง เข้าขั้นวิกฤต น้ำเกินระดับกักเก็บสูงสุด เร่งเปิดประตูระบายน้ำ เตือนประชาชนชาวยะลา-ปัตตานี ที่อยู่ริมแม่น้ำปัตตานี เก็บของหนีขึ้นที่สูง

เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

เมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ฝนตกลงมาในพื้นที่จังหวัดยะลา หลังกรมอุตุนิยมวิทยาฝั่งตะวันออกได้ประกาศแจ้งเตือนอิทธิพลมรสุมในพื้นที่ภาคใต้ ระหว่าง 4-8 ม.ค.64 ที่ทางจะมีฝนตกหนัก และหนักมาก ในพื้นที่ 5 จังหวัดภาคใต้ ยะลา ปัตตานี นราธิวาส สงขลา และพัทลุง ขอให้เฝ้าระวังน้ำท่วมฉลับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม

ขณะที่เขื่อนบางลาง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เมื่อเวลา 06.30 น. ระดับน้ำในเขื่อนบางอยู่ในระดับที่ 115.5 ล้าน ลบ.ม. เจ้าหน้าที่ได้ทำการเปิดประตูระบายน้ำล้น สปิลเวย์ (spillway) เพื่อระบายน้ำในเขื่อนบางลาง โดยมีนายสมชาย จันทร์เย็น หัวหน้ากองโรงไฟฟ้าเขื่อนบางลาง พร้อมด้วยนายเฉลิมชัย ตรีนรินทร์ ผอ.สำนักงานชลประทานที่ 17 นายชูศักดิ์ สุทธิ ชลประทานยะลา นายธราวุธ ช่วยเกิด นายอำเภอบันนังสตา ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาปัตตานี และหน่วยงานบริหารจัดการน้ำในพื้นที่จังหวัดยะลา และปัตตนี้ ได้เปิดวอลรูม เพื่อวิเคราะห์สถานการณ์น้ำในพื้นที่เป็นการเร่งด่วน เพื่อพิจารณาปริมาณน้ำในเขื่อนบางลาง

นายสมชาย จันทร์เย็น หัวหน้ากองโรงไฟฟ้าเขื่อนบางลาง เปิดเผยว่า ปัจจุบันสถานการณ์น้ำในเขื่อนบางลาง อยู่ในสภาวะวิกฤต อยู่เกินกว่าระดับกักเก็บสูงสุดของเขื่อนบางลาง 115.5 ล้าน ลบ.ม. ความจุอ่างอยู่ที่ 1,454 ล้าน ลบ.ม. เกินระดับในการกักเก็บอยู่ที่ 50 ซ.ม. เขื่อนบางลางจำเป็นต้องระบายน้ำผ่านทางประตูระบายน้ำล้นสปิลเวย์ (spillway) เพื่อควบคุมระดับน้ำไม่ให้เกินระดับกักเก็บสูงสุด

โดยการพิจารณาจากหน่วยงานบริหารจัดการน้ำในพื้นที่จังหวัดยะลา และปัตตานี องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และทางอำเภอบันนังสตา คาดว่าถ้าฝนไม่ตกลงมาอีกก็สามารถควบคุมระดับน้ำได้ ขณะนี้ที่ระบายน้ำออกจากเขื่อนผ่านเครื่องกำเนิดไฟฟ้า และประตูระบายน้ำล้นสปิลเวย์ (spillway) อยู่ที่ 530 ลม./วินาที ทางเขื่อนมีความจำเป็นอย่างยิ่งยวดที่ต้องระบายน้ำเพื่อป้องกันผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับตัวเขื่อน เพื่อรักษาความมั่นคงและความปลอดภัยของตัวเขื่อน แต่อย่างไรก็ตามทางเขื่อนได้คำนึงถึงประชาชนและชุมชนที่อยู่ท้ายเขื่อน เพื่อให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด

ด้านนายเฉลิมชัย ตรีนรินทร์ ผอ.สำนักงานชลประทานที่ 17 เปิดเผยว่า เขื่อนบางลางมีความจำเป็นที่ต้องเปิดประตูระบายน้ำล้นสปิลเวย์ (spillway)ในอัตราที่ไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายน้ำมากนัก อาจจะมีผลกระทบบ้าง ในกรณีน้ำล้นตลิ่ง ณ ปัจจุบัน เขื่อนเปิดประตูระบายน้ำล้นสปิลเวย์ (spillway) อยู่ที่ 1.2 เมตร ในอัตรา 530 ลม./วินาที มวลน้ำจะเดินทางไปถึงจังหวัดยะลา ประมาณ 24 ชั่วโมง ผ่านพื้นที่ อ.บันนังสตา อ.กรงปินัง อ.เมืองยะลา และมวลน้ำจะเดินทางโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาปัตตานี

สำหรับพื้นที่จังหวัดยะลาที่ส่งผลกระทบจะเป็นพื้นที่ลุ่มริมตลิ่ง ที่ ต.ท่าสาป อ.เมืองยะลา ซึ่งเป็นพื้นที่ราบลุ่ม หลังจากที่น้ำผ่านจังหวัดยะลา ถึงเขื่อนปัตตานี ทางเขื่อนควบคุมระบายน้ำไปทางซ้าย และทางขวา เพื่อให้น้ำส่งผลกระทบในพื้นที่ลุ่มต่ำที่บ้านบิดอ ต.ปากาฮะรัง จ.ปัตตานี ให้น้อยที่สุด ขณะนี้เขื่อนยังคงระบายน้ำอย่างต่อเนื่อง คิดว่าเมื่อสถานการณ์คงที่ ฝนหยุดตก ก้อนน้ำที่ไปก่อนหน้านี้จะเดินทางไปถึงจังหวัดยะลา 24 ชั่วโมง และเดินทางถึงปัตตานีอีก 24 ชั่วโมง ประมาณ 2 วัน ที่จะไหลออกทะเล

นายเฉลิมชัย กล่าวต่อว่า ทางเขื่อนบางลางได้มีการแจ้งเตือนพี่น้องประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ริมแม่น้ำปัตตานี ขนสิ่งของขึ้นสู่ที่สูง เพื่อป้องกันในเรื่องของการสูญเสีย ทั้งชีวิต และทรัพย์สิน ขณะนี้ทางเขื่อนบางลางมีการติดตามสถานการณ์น้ำเป็นรายชั่วโมง ดูระดับน้ำที่เพิ่มขึ้นว่าตอนนี้เป็นอย่างไร ปัจจุบันสถานการณ์การวิเคราะห์น้ำทางเขื่อนระบาย 530 ลม./วินาที ใน 1 ชั่วโมง น้ำเพิ่มขึ้น 1 เซนติเมตร แสดงว่าน้ำที่ไหลเข้าเขื่อนกับน้ำที่เขื่อนระบายออกไปมีสัดส่วนที่ใกล้เคียงกันแล้ว

นายเฉลิมชัย กล่าวอีกว่า ถ้าระดับน้ำลดลงกว่านี้ ทางเขื่อนบางลางก็จะพิจารณาปรับลดระดับการระบายน้ำประตูน้ำ แต่ต้องติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง การบริหารจัดการน้ำของหน่วยงานบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ ร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย จะระบายน้ำที่ส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนในพื้นที่ท้ายน้ำให้น้อยที่สุด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน