คุณยายอดีตข้าราชการครู รำถวายในหลวง พร้อมยังมีโอกาสจัดเตรียม-ถวายพระกระยาหาร เมื่อครั้งเสด็จมาภาคอีสาน ส่วนลูกสาวอดีตนายทหารเรือหญิง ได้รับพระมหากรุณาธิคุณประกอบพิธีสมรสพระราชทาน เข้ารับพระราชทานน้ำสังข์แก่คู่สมรส ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต เมื่อ 23 ปีก่อน ทำให้สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อครอบครัว ขอยึดแนวพระราชดำรัสเป็นแนวทางดำเนินชีวิตตลอดไป

พบพสกนิกรแม่ลูกชาวอุบลราชธานี ได้เข้าเฝ้าใกล้ชิดเบื้องยุคลบาท เมื่อครั้งทรงเสด็จเยี่ยมชาวจังหวัดอุบลราชธานี คุณยายอัจฉรา ศรีวัฒนะชัย อายุ 82 ปี ชาวจังหวัดอุบลราชธานี อยู่บ้านเลขที่ 3 ถนนพโลรังฤทธิ์ ต.ในเมือง อ.เมืองอุบลราชธานี ได้เล่าความประทับใจหาที่สุดมิได้ เมื่อวันที่ 16-19 พฤศจิกายน พ.ศ.2498 หรือเมื่อ 61 ปีที่แล้ว

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จประพาสจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อเยี่ยมพสกนิกรชาวจังหวัดอุบลราชธานี และทรงประทับแรมในค่ายสรรพสิทธิประสงค์ อ.วารินชำราบ ซึ่งเป็นที่ตั้งของทหารกองพลที่ 6

ตนเองพร้อมเพื่อนๆ ซึ่งเป็นครูโรงเรียนสตรีวิลัยวัฒนา ได้รับการติดต่อให้ไปฟ้อนรำพื้นเมืองอีสานถวายต่อหน้าพระที่นั่ง สร้างความตื่นเต้นให้กับตนและเพื่อนครูทุกคนที่ได้ร่วมกันฟ้อนรำถวายในวันนั้น ท่ามกลางพสกนิกรมาเฝ้ารับเสด็จอย่างเนืองแน่น

หลังจากนั้น ได้มีโอกาสเป็นผู้จัดเตรียมถวายพระกระยาหารกับพระองค์และพระบรมวงศานุวงศ์เวลาเสด็จมาในจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือหลายครั้ง และตนได้น้อมนำแนวพระราชดำรัส มาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตมาจนถึงปัจจุบัน

ด้านเรือโทหญิงลักษณียา ศรีวัฒนะชัย บุตรสาวของคุณยายอัจฉรา ซึ่งปัจจุบันรับราชการสังกัดสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอุบลราชธานี ได้เล่าถึงความปลื้มปีติที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ เมื่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ประกอบพิธีสมรสพระราชทาน ระหว่างเรือโทหญิงลักษณียา ศรีวัฒนะชัย กับพันเอกอารยะ กลิ่นเฟื่อง ซึ่งรับราชการใกล้ชิดเบื้องยุคลบาท

โดยให้คู่สมรสเข้าเฝ้ารับพระราชทานน้ำสังข์ ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ.2536 ซึ่งพระองค์และพระราชินี ได้ทรงมอบถุงเงินถุงทองให้เป็นขวัญถุงแก่ตนและสามีในการสมรมพระราชทานในครั้งนั้น ซึ่งได้เก็บรักษาไว้เป็นอย่างดีมาถึงทุกวันนี้

เรือโทหญิงลักษณียา กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนและครอบครัวสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จึงได้ยึดแนวพระราชดำรัสที่ทรงประทานให้แก่พสกนิกรมาใช้ในการทำงาน และจะตั้งใจทำงานตามรอยเบื้องพระยุคลบาท ยึดประโยชน์ของประเทศชาติประชาชนเป็นสำคัญ เพื่อนำประเทศไปสู่ความสงบเรียบร้อยเจริญก้าวหน้าตามที่พระองค์ท่านได้ทรงสั่งสอนเอาไว้








Advertisement

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน