สุดเวทนา! พ่อลูกอ่อนเมียทิ้ง หอบ 2 ชีวิตนั่งจักรยาน รอนแรมข้ามจังหวัดจากอุดรธานีจะไปชัยภูมิ หางานทำ มีผู้ใจบุญช่วยเหลือให้งานทำ-ให้ที่พัก

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

กรณีโลกออนไลน์แชร์ภาพจากเฟซบุ๊กสำนักข่าวเหยี่ยวเวหา ของผู้ที่ให้การช่วยเหลือ พ่อจูงจักรยานหอบลูกน้อย 2 คน พร้อมสัมภาระ ไม่มีเงินติดตัว เดินทางจากอุดรธานีจะไปชัยภูมิ มีผู้ใจบุญรวบรวมเงิน 200 บาท หน้ากาก 4 ชิ้น น้ำ 1 แพค เสื้อกันหนาว 3 ตัว มาม่า 2 กล่อง มอบให้ ต่อมามีผู้ช่วยเหลือนำพ่อและลูกน้อย 2 คน ไปทำงานด้วย ที่หลังวัดป่าศิลาวาส บ้านดินทรายอ่อนเหนือ ต.หัวนา จ.หนองบัวลำภู

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 13 ม.ค.64 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังด้านหลังวัดป่าศิลาวาส บ้านดินทรายอ่อนเหนือ ต.หัวนา จ.หนองบัวลำภู พบพ่อกับลูกน้อย 2 คน อยู่ร่วมกับผู้ที่รับไปหางานทำด้วย โดยพ่อช่วยทำงานเชื่อมโครงเหล็กทำช้าง ส่วนลูกอีก 2 คน เล่นอยู่ด้วยกันกับลูกผู้ที่รับไปทำงาน ทราบชื่อต่อมาว่า นายสมภาร ชัยพรม อายุ 40 ปี ชาวต.หนองไฮ อ.เมือง จ.อุดรธานี ส่วนลูก 2 คน เป็นหญิง คือ น้องไอซ์ อายุ 3 ขวบ น้องอ๋อม อายุ 5 ขวบ

สอบถามทราบว่า ผู้ที่ให้การช่วยเหลือนำพ่อลูกและเด็กน้อย 2 คน คือนางพรจิตร ชนะพันธุ์ อายุ 59 ปี ชาว อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู ข้าราชการครูวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ โรงเรียนกุดสะเทียนใหม่ศรีทอง อ.ศรีบุญเรือง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาหนองบัวลำภู เขต 1 และเป็นเจ้าของน้ำฝนรีสอร์ต

นางพรจิตร เล่าว่า เห็นข่าวเรื่องนี้มีการแชร์กันในเพจเมื่อวานนี้ คิดว่าอยากจะช่วยอยู่ เพราะเห็นมีลูกน้อย 2 คน ก็พอดีวันนี้มาที่โรงเรียนก็เลยกลับออกไปที่ตลาดเพื่อที่จะไปซื้อปลามาปล่อย เพื่อทำบุญวันเกิด ก็เลยไปเจอเขา พอดีจำเด็กน้อย 2 คนได้ แล้วเห็นจักรยานที่แชร์กัน ขับรถเลยไปแล้ว ก็เลยวกกลับมาใหม่

“ถามเขาเอาเงินให้ สอบถามว่าอยู่ไหนจะไปไหนอย่างไร เขาก็บอกว่าจะไปจังหวัดชัยภูมิ แล้วก็จะไปเอาผ้าห่มมาให้เขากับลูก เขาก็เลยขอบคุณครับ ผมไม่เอาผ้าห่ม จักรยานผมเอาไปไม่ไหว เลยถามว่า อยากกลับบ้านไหม เขาก็เลยบอกว่า เขายังไม่อยากกลับบ้าน ยังอยากเดินทางไปเรื่อยๆ กับลูก เผื่อมีคนใจบุญจ้างให้ทำงาน” นางพรจิตร กล่าว

นางพรจิตร กล่าวว่า ถ้ากลับบ้านถึงบ้านแล้ว เขาว่าก็ยังไม่มีงานทำ ไม่มีเงินให้ลูก จึงถามว่าทำงานอะไรได้บ้าง เขาบอกว่าทำงานก่อสร้าง เชื่อมเหล็กได้ งานปูนได้ ก็เลยบอกว่าแม่จะพาไปทำงาน รับเขากับลูกขึ้นรถ เห็นเขาแล้วก็ร้องไห้สงสารเด็ก 2 คน เพราะวันนี้อากาศหนาวเย็นมาก ก็เลยพามาทำงานกับน้องสาวและแฟนน้องสาวที่พิการ มาทำงานปั้นรูปช้างอยู่ที่วัดป่าศิลาวาส บ้านดินทรายอ่อนเหนือ ต.หัวนา อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู

ต้องการคนงานช่วยเชื่อมเหล็กให้ เขาต้องการที่จะมีรายได้เล็กๆน้อยๆ แล้วพอดีมีที่พัก คิดว่าจะให้เขากับลูกไปพักบ้านหลังที่ว่าง ไม่มีใครอยู่ในรีสอร์ต ส่วนลูกเขาตัวเล็กอยู่ก็คิดว่าจะเอาไปโรงเรียนด้วย สักพักก่อน ถ้าเขาอยู่ได้ก็ให้เขาอยู่ หรือเขาจะไปที่ใหม่ก็ตามใจ

ด้าน น.ส.กิงกานต์ สิงห์น้อย อายุ 40 ปี น้องสาวของนางพรจิตร กล่าวว่า “ตอนนี้ก็รับเขามาช่วยงานวันแรกให้ค่าแรงวันละ 300 บาท เพราะเพิ่งเริ่มทำงาน ส่วนที่ได้มีคนเห็นเรื่องราวชีวิตของเขาแล้วอยากช่วยเหลือในเพจเฟซบุ๊ก ตอนแรกจึงแจ้งเลขที่บัญชีตัวเองให้การช่วยเหลือ ก็มีน้องเป็นทหารจากจังหวัดชลบุรีให้มา 300 บาท มีพี่อีกคนที่อยู่ กรุงเทพฯให้การช่วยเหลือมา 3,000 บาท เงินทุกบาทจะโอนให้เขา

ตอนนี้และก็จะปิดบัญชีช่วยเหลือของตัวเองแล้วก็ให้เป็นบัญชีของเขา คือชื่อบัญชี นายสมภาร ชัยพรม ธนาคารกสิกรไทย สาขาเซ็นทรัล สาขาพิษณุโลก เลขที่บัญชี 043-8-21266-3”

นายสมภาร เล่าว่า ตนเป็นคนอำเภอแก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ มามีครอบครัวกับแฟน ที่เป็นชาวอำเภอลานกระบือ จ.กำแพงเพชร ได้ประมาณ 10 ปี มีลูกด้วยกัน 2 คน คือ น้องอ๋อมและน้องไอซ์ ส่วนมากตัวเองจะไปทำงานตัดอ้อย ก่อสร้าง ภรรยาไม่ค่อยได้ทำงาน ส่วนมากก็จะเห็นเล่นเฟซ เล่นไลน์ ตอนหลังก็เลยย้ายมาอยู่กับแม่ที่ หลัก 18 ต.หนองไฮ อ.เมืองอุดรานี แล้วไปทำงานก่อสร้างอยู่ที่อุดรธานี

แต่เมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา ภรรยาหนีไปมีแฟนใหม่ ทิ้งลูก 2 คนไว้ให้อยู่กับตัวเอง พอเมียไปก็ทำงานไม่ได้ ต้องคอยเลี้ยงลูก จึงพามาอยู่กับแม่ที่ปลูกผัก ก็อยู่ไม่ได้ แม่กินแต่เหล้า ช่วยดูแลลูกไม่ได้ จึงตัดสินใจพาลูก 2 คน นั่งจักรยาน ตัวเองเป็นคนจูง ออกจากบ้านมาโดยยังไม่รู้ว่าจะไปอย่างไร มีป้าให้เงินติดตัวมา 100 บาท ซึ่งก็ตั้งใจว่าจะกลับไปจังหวัดชัยภูมิ ออกจากบ้านมาได้ประมาณครึ่งเดือนแล้ว อาศัยพักนอนรอนแรมตามศาลาริมทางบ้าง ส่วนอาหารคนเห็นสงสารก็ให้เงินพอได้ซื้อข้าวให้ลูกกิน

“ถ้าอยู่ได้ก็อยากอยู่กับแม่ รู้สึกดีใจขอบคุณ บางทีชีวิตก็ท้อ แต่เมื่อมองเห็นลูก 2 คนแล้วก็กัดฟันสู้ ไม่มีเงินก็ต้องพาลูกออกมา ก็ไม่รู้จุดหมายปลายทางเหมือนกัน คิดไว้ว่าจะดูแลเขาสองคนให้ดีที่สุด” นายสมภาร กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเสร็จงานตอนเย็น นางพรจิตร และน.ส.กิงกานต์ พานายสมภาร และลูกๆ ไปพักนอนที่บ้านพัก ด้านหลังในรีสอร์ตของตัวเอง ซึ่งจะทำให้ได้พักผ่อน อบอุ่นท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็นเป็นอย่างมากในช่วงนี้

ที่มา มติชนออนไลน์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน