ระทึกกรุงเก่า! พ่อแม่ลูกโดดน้ำหนีตาย เรือยนต์ระเบิดกลางเจ้าพระยา

เกิดเหตุระทึกกลางแม่น้ำเจ้าพระยากรุงเก่า เรือยนต์ระเบิด พ่อแม่ลูก กระโดดลงน้ำหนีตาย คาดว่าสายน้ำมันคงจะชำรุดและเกิดประกายไฟ

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด

วันที่ 14 ม.ค.64 ร.ต.อ.ปัญญา อามาตย์เสนา รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งเกิดเหตุไฟไหม้เรือยนต์ล่างจูง บริเวณกลางแม่น้ำเจ้าพระยา หมู่ 2 ต.ภูเขาทอง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา จึงประสานเรือดับเพลิง และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู รุดไปให้ความช่วยเหลือ

• อ่านข่าว หมดเวลาแล้ว! ปิดตำนาน ‘ยายสา’ อุทยานฯ พีพี สั่งรื้อออกจากแหลมริมเขาอ่าวนาง
• อ่านข่าว ไฟไหม้วอด รถตัดอ้อย คันละ 5 ล. เจ้าของเศร้า เพิ่งรับงานแรกของปี
• อ่านข่าว หนุ่ม จุดไฟเผาโรงพยาบาล แค้นเจ้าหน้าที่ไม่ให้เยี่ยมญาติ ตามมาตรการป้องโควิด

ที่เกิดเหตุ กลางแม่น้ำเจ้าพระยาพบเรือยนต์ เกิดเพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ดับเพลิงไม่สามารถฉีดน้ำสกัดได้เพราะอยู่กลางแม่น้ำเจ้าพระยา จึงประสาน เรือเจ็ทสกีของสมาคมอยุธยารวมใจจำนวน 2 ลำ ทำการช่วยเหลือ โดยใช้วิธีสกัดน้ำให้กระเด็นไปบนเรือ แต่ไม่สามารถดับได้ จากนั้นจึงประสานเรือดับเพลิงของเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา มาทำการฉีดน้ำสกัด ใช้เวลากว่า 30 นาที เพลิงจึงสงบ แต่เนื่องจากเรือยนต์ล่างจูงรับความเสียหายจากถูกเพลิงไหม้อย่างหนักจึงทำให้จมลงในแม่น้ำ

จากการสอบถาม นายวิเชียร แก้วทอง เจ้าของเรือ เล่าว่า ขณะเกิดเหตุได้ลากเรือเหล็ก (เรือเปล่า) จำนวน 3 ลำ จาก จ.ปทุมธานีเพื่อไป อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง ขณะนั้นเทอร์โบของเรือได้เกิดระเบิดจนเพลิงลุกไหม้ ตนจึงบังคับเรือแล้วได้ตัดเชือกเรือออก จากนั้นแรงลมก็พัดเรือเกือบถึงฝั่ง ตนและภรรยาพร้อมลูกสาวจึงได้กระโดดออกจากเรือขณะที่เพลิงกำลังลุกไหม้อย่างรวดเร็ว

จากนั้นเรือก็ลอยไปออกไปติดกับหลังบ้านของชาวบ้าน แต่โชคดีที่กระแสลมได้พัดเรือออกไปกลางแม่น้ำ จึงทำให้หลังคาบ้านชาวบ้านเสียหายเล็กน้อย ส่วนเรือของตนนั้นชื่อเรือสินทิวา ถูกเพลิงไหม้และจมลงไปในน้ำ สาเหตุคาดว่าสายน้ำมันคงจะชำรุดและเกิดประกายไฟทำให้ไฟไหม้ในครั้งนี้ ส่วนความเสียหายประเมินค่ายังไม่ได้

ทางด้าน นางอารยา บัวลอย อายุ 50 ปี เจ้าของบ้านที่ได้รับความเสียหาย เล่าว่า ขณะเกิดเหตุตนอยู่บนบ้านและได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นกลางแม่น้ำ จึงชะโงกหน้าไปมองก็เห็นไฟลุกไหม้เรืออยู่ กระแสลมแรงทำให้พัดเรือเข้ามาชิดเกือบติดกับบ้านของตน จนทำให้ไฟที่ลุกไหม้ติดกับหลังคาบ้าน โชคดีมีชาวบ้านช่วยกันฉีดน้ำสกัดและกระแสลมได้พัดเรือออกไปอยู่กลางแม่น้ำไม่เช่นนั้นอาจจะมีบ้านไฟไหม้อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ตรวจสอบหาสาเหตุการเกิดเหตุที่แท้จริงก่อนดำเนินการต่อไป