ลูกจ้างร้านขายต้นไม้หลอกขายตู้และโต๊ะให้สาว หลังนายจ้างรู้จึงบอกให้ไปเอาของคืน ไปถึงบ้านสาวทะเลาะลั่น ด่าตาว่าแก่กะโหลกกะลา เอาปืนขู่ซ้ำ
เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด
วันที่ 15 ม.ค. 64 ศูนย์วิทยุ191 ตำรวจภูธรจังหวัดอ่างทอง รับแจ้งเหตุจาก น.ส.ศศิธร อายุ 29 ปี ว่า มีเหตุทะเลาะวิวาทและคู่กรณีนำปืนมาขู่ และขับรถกระบะ นิสสัน บิ๊กเอ็ม สีเทาดำ ทะเบียน บจ333นนทบุรี หลบหนีไป เหตุเกิดบริเวณหน้าบ้าน ต.บ้านแห อ.เมือง หลังรับแจ้งจึงประสานไปยัง ร.ต.อ.ประจักษ์ ชุ่มเย็น รองสารวัตรป้องกันและปราบปราม หัวหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองอ่างทอง และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองอ่างทอง พร้อมด้วยอาสามูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง รีบรุดไปตรวจสอบ
จากการตรวจสอบพบรถกระบะและคู่กรณีลักษณะตามที่แจ้ง จอดอยู่บริเวณร้านขายต้นไม้ ถนนเทศบาล14 ใกล้จวนผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร พบชายที่เป็นคู่กรณี 2 คน ทราบชื่อต่อมา นายภาคภูมิ อายุ 33 ปี เป็นลูกจ้างของร้านขายต้นไม้ และนายสุรสิทธิ์ อายุ 50 ปี สามีเจ้าของร้านขายลาบที่ตั้งอยู่ข้างร้านขายต้นไม้
นางประไพ อายุ 68 ปี เจ้าของร้านขายต้นไม้ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ออกไปซื้อต้นไม้ เมื่อกลับมาพบว่าตู้กับข้างและโต๊ะหินที่อยู่ข้างร้านหายไป จึงได้สอบถาม ลูกจ้างบอกว่ามีคนมาขนเอาไปแล้ว จึงบอกให้ไปนำกลับมาเพราะเป็นของตน
ด้าน น.ส.ศศิธร กล่าวว่า ตนซื้อตู้กับข้าวกับโต๊ะหินมาจาก นายชัย อดีตลูกจ้างของร้านขายต้นไม้ที่ถูกไล่ออกไปก่อนหน้านี้ โดยไม่ทราบว่า นายชัย ติดเงินเจ้าของร้านและถูกยึดตู้กับข้าวและโต๊ะหินเอาไว้ โดยมาหลอกขายตนในราคา 300 บาท ตนจึงมาขนเอาไป แต่ตอนนั้นทางเจ้าของร้านไม่อยู่ จึงทำให้เกิดการเข้าใจผิดกันขึ้น
เมื่อ นายภาคภูมิ ขับรถมาเอาคืน ตนจึงให้คืนไป แต่ได้มีปากเสียงทะเลาะกับตาของตน ว่าตาแก่กะโหลกกะลา พร้อมกับจะนำปืนที่อยู่ในกระเป๋าสะพายมาขู่ ตนเองเห็นท่าไม่ดีจึงได้ผลักออกไป และรีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนที่คู่กรณีจะขับรถกระบะออกไป
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ตรวจค้นกระเป๋าสะพายไม่พบอาวุธปืน จึงตรวจค้นโดยรอบบริเวณร้านขายต้นไม้ แต่ก็ยังไม่พบ จากการตรวจสอบปัสสาวะพบว่ามีสารเสพติด จึงควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอ่างทอง ดำเนินคดีในข้อหาเป็นผู้ขับรถยนต์ เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย และเสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ต่อไป
