หนุ่มวัย 34 พิการตาบอด-ขาหัก บอกพี่ชายให้คอยดู ก่อนปลิดชีพตัวเองคาบ้าน พี่ชาย-ภรรยาเผยไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกัน ก่อนเกิดเหตุยังโทรหาปกติ
เมื่อวันที่ 16 ม.ค. 2564 ร.ต.อ.มานิตย์ หยั่งถึง พนักงานสอบสวน สภ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี รับแจ้งเหตุคนผูกคอเสียชีวิต ที่บ้านเลขที่ 29 หมู่ 7 ต.บ้านแก้ง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี จึงรุดตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์ รพ.สระบุรี และเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างจุดเฉลิมพระเกียรติ
- อ่าน ทะเลาะลั่นบ้าน เมียไม่ยอมมีเซ็กซ์ ผัวน้อยใจ ผูกคอลาโลกสลด
- อ่าน เมืองคอน วันเดียวผูกคอลาโลก 3 คน แม่ผูกคอลูก 11 ปีแต่เชือกหลุด
- อ่าน สาวโพสต์สลด อาผูกคอเครียดไม่ได้เงิน5พัน เผยปี57 พ่อก็โดนยิงตายที่หลักสี่
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้ พบนางพัชรี เกตุชาติ อายุ 30 ปี ภรรยาของผู้ตาย พาขึ้นไปบนชั้น 2 พบศพนายการุณ ดาสวัสดิ์ อายุ 34 ปี ซึ่งเป็นคนพิการ ตาซ้ายบอดและขาซ้ายหัก ใช้เชือกไนล่อนผูกคอตัวเองกับขื่อ สภาพมีรอยสักตามตัว สวมกางเกงยีนส์ขายาว ไม่สวมเสื้อ บริเวณที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยการต่อสู้ ตรวจสอบภายในบ้านไม่มีทรัพย์สิน นอกจากที่นอนเก่า
จากการชันสูตรพลิกศพเบื้องต้น พบหน้าอกผู้ตายมีรอยถลอก และมีเลือดไหลซึมเล็กน้อย คาดว่าก่อนผู้ตายจะแขวนคอ อาจมีการทำร้ายตัวเอง แต่ไม่พบบาดแผลอื่นที่จะทำให้ผู้ตายเสียชีวิตได้ นอกจากรอยช้ำที่คอจากเชือก จึงสันนิษฐานว่าเสียชีวิตเพราะขาดอากาศหายใจมาแล้วไม่ต่ำกว่า 24 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ส่งศพไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวช เพื่อสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดอีกครั้ง
สอบถามเพื่อนบ้านผู้ตายทราบว่า ผู้ตายอาศัยอยู่กับภรรยา และพี่ชายอีกคน คือนายวิรัตน์ ดาสวัสดิ์ อายุ 40 ปี แต่ พิการขาเดินไม่ได้ ต้องนั่งรถเข็น อาศัยนอนอยู่ชั้นล่าง ส่วนผู้ตายอาศัยอยู่ชั้นบน ทั้ง 2 คนเป็นคนดี ไม่เคยมีเรื่องกับใคร แต่ดำเนินชีวิตด้วยความยากลำบากต้องอดมื้อกินมื้อ ซึ่งผู้ตายทำงานไม่ค่อยได้ เพราะสภาพร่างกายไม่ดี จึงมีเพียงนางพัชรีที่เป็นภรรยาออกไปหางานทำ เพื่อหาเงินมาจุนเจือครอบครัว
ก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายอยู่บ้านกับพี่ชายแค่ 2 คน เนื่องจากภรรยาต้องออกไปทำงานหามต้นไม้ ที่ ต.ชะอม อ.แก่งคอย ครั้งละ 1-2 วัน ถึงจะกลับบ้าน จึงไม่รู้ว่าสามีผูกคอเสียชีวิต กระทั่งมีเพื่อนบ้านโทรไปบอก ส่วนพี่ชายก็ไม่รู้ว่าน้องชายผูกคอตาย เนื่องจากเดินไม่ได้ และนอนอยู่ชั้นล่าง
นางพัชรี กล่าวว่า ตนไปทำงานบ้านพี่สาวตั้งแต่วันที่ 14 ม.ค. สามีไม่มีโรคประจำตัว แต่พิการตาบอดข้างซ้ายและขาซ้ายหัก เนื่องจากประสบอุบัติเหตุ แต่ว่ายังช่วยเหลือตัวเองได้บ้าง ตนไม่รู้สาเหตุ เพราะผู้ตายไม่ได้พูดอะไรให้ฟัง และไม่มีทีท่าว่าสามีจะก่อเหตุ เพราะเมื่อตอนเย็นวันที่ 14 ม.ค. และวันที่ 15 ม.ค. ตนยังโทรมาหาและพูดคุยกับสามีอยู่เลย
ด้านนายวิรัตน์ ดาสวัสดิ์ พี่ชายผู้ตาย กล่าวว่า ก่อนน้องชายจะก่อเหตุ ได้พูดกับตนว่า “คอยดูกูนะ” เหมือนกับว่าน้อยใจอะไรสักอย่าง ซึ่งตนได้ยินเสียงทุบกระดานดังตึง 2 ครั้ง ตนนอนอยู่ชั้นล่างและเดินไม่ได้ จึงไม่ทราบว่าน้องชายผูกคอตายแล้ว ซึ่งตนก็เอะใจอยู่เหมือนกัน เนื่องจากได้กลิ่นเหม็นเน่า เลยให้เพื่อนบ้านขึ้นไปเรียกน้องชายเมื่อคืนนี้ แต่ไม่มีเสียงตอบรับ
นายวิรัตน์ กล่าวต่อว่า กระทั่งวันนี้ตอน 5 โมงเย็น เพื่อนบ้านได้มาเยี่ยมตนและน้องชาย ตนจึงวานให้ขึ้นไปเรียกน้องชายให้หน่อย ถ้าเปิดประตูไม่ได้ ให้ส่องดูทางหน้าต่าง พอเพื่อนบ้านส่องดู ก็เห็นว่าน้องชายผูกคอตายแล้ว พอตนรู้ก็ตกใจและเสียใจมาก ตนไม่รู้สาเหตุอะไรเลย เพราะไม่เคยทะเลาะอะไรกัน และกับภรรยาก็ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกัน