เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 17 ต.ค. ที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ต.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ รักษาการแทน ผบช.ภาค 5 พล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง ปฏิบัติราชการ รอง ผบช.ภาค 5 ฝ่ายปราบปรามยาเสพติด พล.ต.ต.จารึก ลิ้มสุวรรณ ผบก.สส.ภ.5 พร้อมด้วยตัวแทนทหาร และตัวแทน ป.ป.ส.ภาค 5. ได้ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมยาเสพติดในห้วง 1-15 ตต 59 ในเขต 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน โดยสรุปผลการปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดได้ผู้ต้องหา 741 คน จำนวน 723 ราย ยาบ้า 942,360 เม็ด ไอซ์ 2.1 กิโลกรัม เฮโรอีน 23.1 กิโลกรัม กัญชา 1.3 กิโลกรัม ฝิ่น 1.06 กิโลกรัม
พล.ต.ต.พูลทรัพย์ เปิดเผยว่า การปราบปรามครั้งนี้มีสายของจังหวัดแพร่ ที่จับกุมเฮโรอินรายใหญ่ได้ เป็นเครือข่ายของนายเล่าเต๋า แสนลี่ ราชายาเสพติด ซึ่งตนมอบหมายให้ ทางพล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง ปฏิบัติหน้าที่ รอง ผบช.ภาค 5 ในด้านปราบปรามยาเสพติด มาดำเนินการขยายผล โดยเฮโรอีนของ จ.แพร่ นั้นสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 15 ต.ค. เวลาประมาณ 22.30 น. เจ้าหน้าที่ด่านตรวจยาเสพติดห้วยไร่ สภ.ห้วยไร่ อ.เด่นชัย จ.แพร่ จับกุมตัวนายจีรพันธ์ วัฒธนชาติ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 222 หมู 14 ต.แม่นาวาง อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ พร้อมของกลางเฮโรอีน 60 แท่ง น้ำหนักประมาณ 23 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่ในถังน้ำมันของรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีเขียว ทะเบียน บว 3752 ลำปาง
โดยเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ด่านตรวจยาเสพติดบ้านห้วยไร่ อ.เด่นชัย จ.แพร่ ได้เรียกตรวจรถยนต์คันดังกล่าว สอบถามทราบว่าเดินทางมาจาก จ.ลำปาง จะเดินทางไป จ.พิษณุโลก ลักษณะท่าทางมีพิรุธ ตรวจค้นเบื้องต้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย จึงได้ตรวจค้นด้วยเครืองมือเอ็กซเรย์ก็พบยาเสพติด เป็นเฮโรอีน จำนวน 60 แท่งดังกล่าวซุกซ่อนในถังน้ำมัน จึงจับกุมตัวส่งดำเนินคดี และได้ขยายผลตรวจค้นบ้านผู้ต้องหา เขต อ.แม่อาย เชียงใหม่ ก็พบว่าเป็นยาเสพติดเครือข่ายนายเล่าต๋า ทางเจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดทรัพย์สินของผู้ต้องหารายนี้ คืออายัดที่ดิน บ้าน พร้อมสิ่งปลูกสร้างรวมมูลค่าประมาณ 2 ล้านบาท ไว้ดำเนินการตามพ.ร.บ.มาตราการฯ ต่อไป
โดยเครือข่ายยาเสพติดของนายเล่าต๋า นั้นทางตำรวจภาค 5 จะดำเนินการขยายผลต่อเนื่องทั้งหมด เพื่อเข้าตรวจสอบยึดทรัพย์สินต่างๆของเครือญาติและเครือข่ายของนายเล่าต๋า โดยจะใช้วิธีที่เข้มข้นและเด็ดขาดกับตระกูลของนายเล่าเต๋า เพื่อให้ขบวนการของนายเล่าต๋าหมดไป คดีนี้ของนายเล่าต๋า นั้นทางตำรวจภาค 5 มีข้อมูก่อนหน้านั้นไว้มากมาย และหลักฐานพยานครั้งนี้มีมากพอที่ขบวนการนี้จะไม่หลุดในชั้นขบวนการยุติธรรมแน่นอน
