แม่กระโดดช่วยลูกสาววัย 3 ขวบไม่ให้ถูกรถไฟชน แต่ตัวเองเสียหลักพลัดตกลงไปบนรางโดนม้าเหล็กสปริ้นเตอร์ สายยะลา-กรุงเทพฯ ขยี้ขาขาดสาหัส ส่วนลูกสาวปลอดภัย

เมื่อวันที่ 22 ต.ค. ร.ต.อ.สุริยา คงอินทร์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งว่ามีคนถูกรถไฟชนได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ที่สถานีรถไฟทุ่งสง อ.ทุ่งสง จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น จากนั้นจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิประชาร่วมใจทุ่งสงรีบรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงที่ชานชาลาที่ 1 พบร่างคนเจ็บอยู่ในอาการทุรนทุรายแสนทรมานด้วยความเจ็บปวด เจ้าหน้าที่จึงรีบนำส่ง รพ.ทุ่งสง ทันที

ต่อมาทราบชื่อคนเจ็บคือนางนิภาพร จิราพันธุ์ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64 หมู่ 3 ต.นาหลวงเสน อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งมีสภาพขาซ้ายแหลกละเอียดไม่มีชิ้นดี เนื่องจากถูกรถไฟเหยียบจนขาดไม่สามารถต่ออีกได้ ส่วนรถไฟที่ชนนางนิภาพรคือขบวนรถไฟสปริ้นเตอร์ สายยะลา-กรุงเทพฯ จอดอยู่ที่ชานชาลาที่ 1 ขณะที่ขบวนรถเร็ว เส้นทางตรัง-กรุงเทพฯ จอดอยู่ที่ชานชาลาที่ 2 ไม่สามารถเดินทางต่อไปได้ขณะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว

จากการสอบสวนทราบว่านางนิภาพร ผู้บาดเจ็บเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่โรงเรียนเทศบาลท่าแพ อ.ทุ่งสง ก่อนเกิดเหตุนางนิภาพรพร้อมลูกสาววัย 3 ขวบ ไปส่งญาติที่จะเดินทางไปกรุงเทพฯ ที่สถานีรถไฟชุมทางทุ่งสงกับขบวนรถไฟสายตรัง-กรุงเทพฯ ซึ่งขบวนรถจอดอยู่ในรางที่ 2 ขณะที่นางนิภาพรกับลูกสาวกำลังส่งญาติที่ชานชาลาที่ 2 ปรากฏว่าขบวนรถไฟสปรินเตอร์จากยะลาที่มุ่งหน้าไปกรุงเทพฯ แล่นเข้าสถานีชุมทางทุ่งสงที่รางที่ 1

เป็นช่วงที่ลูกสาวของนางนิภาพรซึ่งอยู่ในวัยซุกซนกำลังวิ่งเล่นเข้าใกล้ชานชาลาอยู่ห่างๆ พอรถไฟแล่นเข้ามาทำให้นางนิภาพรตกใจ เพราะกลัวว่าลูกจะตกลงไปด้านล่าง จึงวิ่งไปหาลูกสาวแล้วใช้มือปัด จนลูกสาวพ้นรัศมีอันตราย แต่ตัวนางนิภาพรเองเสียหลักพลัดตกลงไปในรางรถไฟ จนถูกล้อรถไฟสปรินเตอร์ทับขาจนเละได้รับบาดเจ็บสาหัส ต้องเสียขาไปข้างหนึ่ง ส่วนลูกสาววัย 3 ขวบนั้นปลอดภัย

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อขอบันทึกภาพจากกล้องวงจรปิดในขณะเกิดเหตุจากทางสถานีรถไฟชุมทางทุ่งสง เพื่อสื่อออกไปให้เป็นอุทาหรณ์เตือนใจ แต่กลับถูกทางสถานีปฏิเสธ

 

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน