คุณตาวัย 83 ปี ขนเงินกว่าครึ่งแสน คืนเบี้ยผู้สูงอายุให้อบต. หลังเพิ่งได้รับเงินบำนาญพิเศษจากลูกชายที่ตายระหว่างปฏิบัติหน้าที่เมื่อ 7 ปีก่อน

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

เมื่อวันที่ 3 ก.พ.64 นายทวี พูนกระโทก อายุ 83 ปี ชาวบ้าน บ้านชุมแสง หมู่ที่ 10 ต.ละลมใหม่พัฒนา อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา เดินทางเข้าไปติดต่อกับทางเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลละลมใหม่พัฒนา เพื่อต้องการที่จะจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุที่ตนเองได้รับมาเกือบ 7 ปี หลังจากที่ได้รับเงินบำนาญพิเศษจากกรณีที่ลูกชาย ซึ่งเป็นข้าราชการตำรวจ ที่เสียชีวิตไปแล้วเมื่อปี พ.ศ.2557 แต่เพิ่งจะมาได้รับเงินเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2563

โดยกรณีดังกล่าวนั้น เกิดขึ้นเนื่องจาก นายทวี พูนกระโทก วัย 83 ปี ติดตามข่าวสารผ่านทางสื่อมวลชน พบว่ามีปัญหาผู้สูงอายุได้รับเบี้ยยังชีพ ซ้ำซ้อนกับเงินบำนาญพิเศษของบุตรหลายราย และจะต้องนำเบี้ยยังชีพที่ได้รับกลับไปคือรัฐ จึงเดินทางเข้าไปสอบถามกับ นายนำ ปลอดกระโทก นายกองค์การบริหารส่วนตำบลละลมใหม่พัฒนา และเจ้าหน้าที่

เพื่อสอบถามรายละเอียด และต้องการจะคืนเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุที่ได้รับมา ในส่วนที่ซ้ำซ้อนกับเงินบำนาญพิเศษของลูกชาย คือ ด.ต.สกุล พูนกระโทก ผู้บังคับหมู่ป้องกันและปราบปราม สภ.โชคชัย ที่เสียชีวิตไประหว่างไปปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจ กองบัญชาการตำรวจนครบาล เมื่อวันที่ 17 พ.ค.2557 หรือเกือบ 7 ปีก่อน ในวัย 44 ปี ด้วยอุบัติเหตุ

โดยทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้สิทธิรับเงินบำนาญพิเศษแก่ นายทวี พูนกระโทก ผู้เป็นพ่อ ตั้งแต่วันที่ 18 พ.ค.2557 แต่เพิ่งจะได้รับเงินจริงในครั้งแรกเมื่อวันที่ 23 พ.ย.2563 ที่ผ่านมา เป็นจำนวนเงินรอบแรก 246,730.32 บาท และรอบที่2 ในวันที่ 23 ธ.ค.2563 จำนวน 501,548.38 บาท ซึ่งเป็นเงินค้างจ่ายมาตั้งแต่ 18 พ.ค.2557 และล่าสุดเมื่อวันที่ 23 ม.ค.64 ก็เริ่มได้รับเงินบำนาญพิเศษเป็นปัจจุบันเดือนละ 10,000 บาท ซึ่งหลังจากนี้จะได้รับเงินเดือนละ 10,000 บาททุกเดือน

นายทวี กล่าวว่า ตนทราบข่าวจากทางสื่อมวลชนผ่านทางโทรทัศน์ว่ามีกรณีที่ผู้สูงอายุที่ได้รับเงินเบี้ยยังชีพ ซ้ำซ้อนกับสวัสดิการของรัฐ จะต้องจ่ายเงินคืนให้กับทางรัฐ จึงเดินทางมาติดต่อกับทางเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลละลมใหม่ เพราะตนก็ได้รับเงินบำนาญพิเศษจากลูกชายที่เสียชีวิต เพื่อต้องการที่จะคืนเงินผู้สูงอายุที่ได้รับมากลับคืนภาครัฐ

เพราะขณะนี้ตนก็มีเงินที่ได้รับความช่วยเหลือจากส่วนใหม่นี้แล้ว จึงไม่อยากที่จะให้เกิดปัญหาตามมา และเพื่อต้องการลดภาระของภาครัฐส่วนหนึ่งด้วย

ผลการตรวจสอบกรณีของคุณตาทวี นั้นพบว่า เริ่มจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2541 ที่ผ่านมา กระทั่งทางกรมบัญชีกลางมีการตรวจสอบพบว่าได้รับเงินซ้ำซ้อนกับกรณีการได้รับเงินบำนาญพิเศษของลูกชายเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2563 จึงสั่งระงับการจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และต้องให้คืนเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเริ่มตั้งแต่งวดเดือนมิถุนายน 2557 มาจนถึงงวดเดือนตุลาคม 2563 ระยะเวลาเกือบ 7 ปี รวมเป็นเงิน 57,600 บาท

ทางนายทวีก็ยินดีที่จะจ่ายเงินคือให้ทั้งหมดภายในวันเดียว เจ้าหน้าที่จึงอำนวยความสะดวกด้วยการนำคุณตาทวี ไปเบิกเงินที่ธนาคารและรับเงินส่วนนี้คืน ก่อนที่จะได้ดำเนินการตามระเบียบขั้นตอนต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน