อ่างทองยังวิกฤตหลังเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มการระบายน้ำ ชาวบ้านผวากลัวท่วมหนักกว่าเดิม (คลิป)

เมื่อวันที่ 24 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ในช่วงจังหวัดอ่างทองยังคงน่าเป็นห่วง หลังจากที่ทางเขื่อนเจ้าพระยาจังหวัดชัยนาท ประกาศระบายน้ำเพิ่มจากเดิม 2,600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระบายเพิ่มอีก 100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยจะค่อยๆ ทยอยเพิ่มการระบายผ่านเขื่อนเจ้าพระยาตั้งแต่บ่ายวันที่ 23 ต.ค. ที่ผ่านมา เป็น 2,700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และในเมื่อเวลา 06.00 น. ของวันนี้ ซึ่งจากการที่ทางชลประทานจะระบายน้ำเพิ่มขึ้น อาจส่งผลให้พื้นที่ท้ายเขื่อนมีระดับน้ำสูงขึ้นประมาณ 25 เซนติเมตร ทำให้ประชาชนต่างหวั่นวิตกว่าจะเกิดน้ำท่วมหนักกว่าเดิมหรือไม่ ประกอบกับในช่วงวันถึงสองวันที่ผ่านมา ได้เกิดฝนตกหนักลงมาในพื้นที่จังหวัดอ่างทอง จึงทำให้พื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังอยู่แล้วมีปริมาณน้ำท่วมสูงขึ้นบ้างเล็กน้อย

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ส่วนในบางพื้นที่ที่เป็นย่านเศรษฐกิจหรือโรงพยาบาลมีน้ำท่วมขังระดับสูงประมาณ 30-50 เซนติเมตร รอการระบาย เนื่องจากในช่วงนี้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีระดับสูง ทำให้ท่อระบายน้ำทำงานลำบาก เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต้องใช้เครื่องสูบน้ำช่วยเพื่อให้น้ำลดระดับลง โดยใช้เวลาสักระยะสถานการณ์น้ำฝนที่ท่วมขังก็จะกลับเข้าสู่ปกติ โดยล่าสุดวันนี้น้ำที่ท่วมขังบริเวณโรงพยาบาลก็เข้าสู่ภาวะปกติ ประชาชนสามารถใช้บริการได้ตามเดิม

ด้านในพื้นที่ ต.โผงเผง อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง ระดับน้ำยังถือว่าทรงตัวมีเพิ่มขึ้นเล็กน้อยแต่ไม่มากนัก ส่วนในพื้นที่อ.ไชโยประชาชนยังไม่นิ่งนอนใจกับสถานการณ์น้ำ ยังคงช่วยกันเสริมแนวจุดเสี่ยงบริเวณริมน้ำเจ้าพระยาเพื่อป้องกันเอาไว้ หากน้ำขึ้นจะได้ป้องกันได้ทันเวลา บางพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขัง ชาวบ้านและผู้นำชุมชนก็ช่วยกันติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ เพื่อสูบน้ำออกทิ้ง ป้องกันพืชสวนไร่นาที่อาจเสียหายจากภาวะน้ำท่วมขังได้

ขณะที่ทางจังหวัดอ่างทองยังคงให้ประชาชนเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยล่าสุดวันนี้ระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ที่ 17.47 เมตร/ร.ทก. ท้ายเขื่อนอยู่ที่ 16.03 เมตร/ร.ทก. เขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำที่ 2,697 ลบ.ม./วินาที ส่วนที่จังหวัดอ่างทองระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาอยู่ที่ 8.82 เมตร เพิ่มขึ้น 0.07 เมตร ปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,563 ลบ.ม./วินาที เพิ่มขึ้น 28 ลบ.ม/วินาที พื้นที่ในจังหวัดอ่างทองยังคงได้รับผลกระทบ 5 อำเภอ 36 ตำบล 110 หมู่บ้าน บ้านเรือนราษฎรได้รับผลกระทะ 3,052 ครัวเรือน พื้นที่ทางการเกษตรได้รับผลกระทบ 6,720 ไร่ เกษตรกรเดือดร้อน 882 ราย