กรมชลประทาน แจ้งเตือนพื้นที่ท้ายเขื่อนพระรามหก รับมือระดับน้ำจะสูงขึ้นอีกเฉลี่ย 30 เซนติเมตร หลังพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำป่าสักยังมีฝนตกชุก ต้องระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์อย่างต่อเนื่อง ระบายน้ำมากขึ้นเป็น 30 .29 ล้านลบ.ม.ต่อวัน เนื่องจากยังคงมีฝนตกในพื้นที่ตอนบนของพื้นที่ น้ำป่าสักทำให้มีน้ำไหลเข้าเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีปริมาณน้ำในเขื่อน 939.50 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 98 ของความจุที่ระดับเก็บกัก ซึ่งใกล้เต็มความจุของอ่าง ในขณะที่ยังไม่สิ้นสุดฤดูฝนของภาคกลาง ดังนั้น เพื่อให้มีพื้นที่รองรับปริมาณน้ำอย่างเหมาะสม

ทางกรมชลประทาน มีความจำเป็นที่ต้องระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เพิ่มขึ้น จากเดิมวันละ 25.57 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็นวันละ 30.29 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยมีการเปิดบานประตูระบายน้ำจำนวน 3 บาน ในจำนวน 7 บาน ซึ่งเมื่อน้ำจำนวนนี้ไหลลงไปรวมกับปริมาณน้ำจากคลองชัยนาท-ป่าสักแล้ว จะควบคุมปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนพระรามหกให้อยู่ในเกณฑ์ 550 – 600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้พื้นที่ริมแม่น้ำป่าสัก ตั้งแต่ท้ายเขื่อนพระรามหก อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จนถึงจุดบรรจบแม่น้ำเจ้าพระยา อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันประมาณ 0.20 – 0.30 เมตร

ทั้งนี้ กรมชลประทาน ได้รายงานสถานการณ์น้ำไปยังจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำป่าสัก ให้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด หากมีความจำเป็นต้องระบายน้ำเพิ่มอีก เนื่องมาจากมีฝนตกลงมาเพิ่ม กรมชลประทาน จะแจ้งให้ทราบเป็นระยะๆต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน