เจอแล้วหนุ่มหายตัวออกจากบ้าน เผยปมเครียด ซ่อนในเขา ไม่ได้หลับ 3 คืน ได้ยินเสียงชาวบ้านเรียก แต่ไม่กล้าออกมา ให้เงินชาวบ้าน 2 หมื่นซื้อโลง

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

วันที่ 17 ก.พ.64 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายกิตติ ผลคิด ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ต.ครน อ.สวี จ.ชุมพร ว่าเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นางเรไร ซั่วเซ่งอิ้ว อายุ 55 ปี ซึ่งเป็นพี่สาวของ นายภิรมย์ นุ้ยสุข อายุ 47 ปี หนุ่มใหญ่ที่หายออกไปจากบ้านตั้งแต่เมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจาก นายชรินทร์ เมืองสวี อายุ 29 ปี ว่าพบตัว นายภิรมย์ แล้ว ซึ่งยังมีชีวิตอยู่ ที่อีกฝั่งของเขาช่องงาย จากนั้นจึงเดินทางไปรับตัวมายังบ้านของ นางเรไร โดยมีชาวบ้านที่ทราบข่าวเดินทางมาให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก

นางเรไร กล่าวว่า หลังจากที่ตนเดินทางไปรับตัว พบว่าน้องชายอยู่ในสภาพอิดโรย ไม่พูดไม่จา สายตาเหม่อลอย นั่งอยู่กับผู้แจ้งในสวนปาล์มใกล้เขาช่องงาย และผู้แจ้งได้มอบเงิน 22,740 บาทให้ พร้อมบอกว่า นายภิรมย์ ได้ลงมาจากเขา แล้วเดินมาที่บ้านในสวนปาล์ม พร้อมยื่นเงินดังกล่าวให้ และบอกว่าให้ช่วยซื้อโลงให้ด้วย ผู้แจ้งเห็นท่าไม่ดี หวั่นจะเดินหนีไปอีก จึงพยายามพูดคุยปลอบใจ และแจ้งมาที่ตนให้รีบไปรับ

ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม นายชรินทร์ ทราบว่า ขณะที่ตนกำลังฉีดยาอยู่ในสวนทุเรียน ได้เห็น นายภิรมย์ เดินลงมาจากสวนปาล์มของตนอีกแปลงที่อยู่เชิงเขาน้ำฉา เขตรอยต่อพื้นที่หมู่ 4 และเป็นเขาที่อยู่ด้านหลังของเขาช่องงายที่ชาวบ้านระดมหากัน

เมื่อตนเห็นก็รีบเดินไปหาพร้อมพูดและพาเดินมาที่บ้านในสวน พยายามสอบถามพูดคุย แต่ นายภิรมย์ ไม่ค่อยพูดอะไร แต่ส่งเงินให้และบอกให้เก็บไว้ช่วยซื้อโลงให้ด้วย เมื่อส่งเงินแล้ว นายภิรมย์ ก็ลุกขึ้นจะเดินออกไป แต่ตนได้ทักท้วงและพูดคุยเพื่อยื้อเวลา ให้ทางพี่สาวที่ นายภิรมย์ รักและเคารพมากมารับตัวไป

ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม นายภิรมย์ ซึ่งพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนล้าและอยู่ในอาการเหม่อลอย พอจับใจความได้ว่า เครียดจนตัวเองอยู่ไม่ได้ จึงหนีออกจากบ้าน โดยเดินเท้าไปตามแนวสวนชาวบ้าน มุ่งปลายทางไปหลบอยู่บนเขาช่องงายหรือเขาแขวนตะเกียง จาดนั้นก็ไปหลบด้านหลังเขาและไปซ่อนอยู่ที่ก้อนหินก้อนใหญ่ โดยไม่ได้ขยับไปไหน และนั่งอยู่ตรงที่เดิมโดยไม่ได้กินอะไร รวมทั้งไม่ได้หลับตลอดทั้ง 3 คืน

เมื่อสอบถามว่า ได้ยินเสียงชาวบ้านที่กู่ร้องเรียกระหว่างระดมค้นหาหรือไม่ นายภิรมย์ บอกว่า ได้ยิน แต่ชาวบ้านไม่เดินมาที่ตนเอง และไม่กล้าลุกขึ้นไปไหน กลัวตำรวจจะมาจับ จนช่วงเช้าจึงได้เดินลงมาเพื่อเอาเงินหมื่นที่ติดตัวมาจากขายวัวได้ ให้กับ นางวิญญา หรือต้อ ซึ่งเป็นแม่ของ นายชรินทร์ ให้ช่วยซื้อโลงศพให้ตนด้วยและจะขึ้นไปหลบอยู่บนเขาอีก

ด้าน นางสุภาวดี นุ้ยสุข อายุ 45 ปี ภรรยาของ นายภิรมย์ กล่าวว่า ตนดีใจมากที่ได้ข่าวว่ามีคนพบสามีแล้ว และได้นำตัวมาที่บ้านพี่สาว จึงรีบเดินทางมาหา ซึ่งเห็นสภาพสามีแล้วน้ำตาไหล เพราะสามีอิดโรยมาก ที่ผ่านมาตนได้ทำทุกวิถีทางที่อยากให้ค้นหาตัวสามีให้เจอ รวมทั้งให้หมอทางไสยศาสตร์มาทำพิธีเปิดป่า และเชื่อว่าตลอดเวลาที่หายตัว ยังมั่นใจว่ายังมีชีวิตอยู่ และก็มีชีวิตอยู่จริงๆ

นางสุภาวดี กล่าวต่อว่า สามีของตนก่อนหายตัวไปนั้น มีอาการด้านจิตตก กังวลความเป็นอยู่ของครอบครัว จะไม่มีกิน เพราะร่างกายของสามีเริ่มถดถอย เจ็บป่วยบ่อย จากสุขภาพกาย จนมาป่วยทางสุขภาพจิต ต้องไปหาเพื่อรักษาและกินยากล่อมประสาทตลอด

ตนยอมรับว่า สามีเคยเสพยาเสพติด แต่เมื่อลูกชายขอเพราะจะมีผลต่อหน้าที่การงาน สามีก็ยอมทิ้งหมดทุกอย่าง แม้กาแฟก็ยังไม่กิน ในส่วนของหนี้สินนั้น ตนก็ยอมรับว่ามีหนี้ ธกส. ยังต้องผ่อนรถ นอกระบบมีเพียงค่าแชร์ แต่ก็พยายามจับจ่ายหนี้อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะออกไปทำงานเพื่อนำมาจ่าย ขายวัวที่เลี้ยงมาให้ แต่ก็ต้องค่อยๆ ปลดหนี้ ซึ่งนี้ก็อีกประเด็นที่ทำให้สามีคิดมากจนเครียดและหลอนไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน