เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 19 ต.ค. ณ วัดหนองแวง พระอารามหลวง ถ.กลางเมือง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น นายพงษ์ศักดิ์ ปรีชาวิทย์ ผู้ว่าราชการจ.ขอนแก่น นายกเหล่ากาชาดจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วยนายชัยธวัช เนียมศิริ รอง ผวจ.ขอนแก่น นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น หัวหน้าส่วนราชการทุกส่วนราชการ หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจทุกหน่วยงาน และ ผู้นำองค์กรภาคเอกชนทุกแห่งใน จ.ขอนแก่น ได้จัดพิธีบำเพ็ญกุศลสัตตมวาร (7 วัน) เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อเป็นการน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
โดย ผวจ.ขอนแก่น เป็นประธานในพิธีจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย จุดเครื่องบูชาทองน้อย (ชุดล่าง) และกราบถวายสักการะพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระสงฆ์ 10 รูป สวดเจริญพระพุทธมนต์ ลาดผ้าขาวรองโยง และลาดผ้าภูษาโยง พิธีทอดผ้าบังสุกุล พระสงฆ์สดับปกณ์ กรวดน้ำ แสดงพระธรรมเทศนา สวดธรรมคาถา ประธานจุดเทียนส่องธรรม จุดเครื่องบูชาทองน้อย ชุดบน หน้าพระบรมฉายาลักษณ์ แสดงพระธรรมเทศนา 1 กัณฑ์ ลาดผ้าขาวรองโยง และลาดผ้าภูษาโยง พิธีทอดผ้าบังสุกุล พระสงฆ์สดับปกณ์ กรวดน้ำ กราบบูชาพระรัตนตรัย กราบถวายสักการะพระบรมฉายาลักษณ์ ถวายภัตตาหารเพล เสร็จพิธี
นอกจากนี้ ยังมีหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน มาร่วมออกบูธโรงทาน เช่น ห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ โรงแรมโฆษะ นำน้ำดื่ม อาหาร ขนม มาร่วมตั้งโรงทาน โดยมีชัยธวัช เนียมศิริ รอง ผวจ.ขอนแก่น เป็นประธานรับมอบ เพื่อแจกจ่ายแก่ประชาชนที่เข้าร่วมในพิธีบำเพ็ญกุศลสัตตมวาร (7 วัน) เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ วัดหนองแวง พระอารามหลวง
ที่โรงเรียนวินิตศึกษาฯ แห่งที่ 1 ตำบลท่าหิน อำเภอเมือง จ.ลพบุรี นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี พร้อมด้วยนางนวลจันทร์ แย้มศรี นายกเหล่าจังหวัดลพบุรี นำข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน ชาวจังหวัดลพบุรี ร่วมพิธีตักบาตรบำเพ็ญกุศลสัตตมวาร พระสงฆ์ 89 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ โรงเรียนวินิตศึกษาฯ ซึ่งโรงเรียนวินิตศึกษา เป็นโรงเรียนซึ่งพระพุทธวรญาณอดีตเจ้าอาวาสวัดกวิศรารามราชวรวิหารได้จัดตั้งขึ้น และเป็นโรงเรียนในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยวัดกวิศรารามราชวรวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ตั้งอยู่ที่ถนนเพทราชา ตำบลท่าหิน อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี ชื่อวัดแปลว่า วัดของพระเจ้าแผ่นดิน
พระพุทธวรญาณ อดีตเจ้าอาวาสได้บันทึกความทรงจำไว้ สรุปความได้ว่า “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานกระแสพระราชดำรัสเมื่อคราวเสด็จเยี่ยมวัดกวิศรารามฯ ในวันที่ 9 ตุลาคม พุทธศักราช 2519 พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี โดยทางวัดไม่ทราบล่วงหน้า และมีพระราชดำรัสตรัสถามถึงงานด้านศึกษา ด้านพระศาสนา และด้านการเผยแพร่พระศาสนา และมีพระราชกระแสรับสั่งว่า “การปฎิบัติธรรมเท่านั้น ที่ทำให้คนเอาตัวรอดได้”
ประชาชนชาวจังหวัดลพบุรี จึงรวมดวงใจร่วมพิธีตักบาตรบำเพ็ญกุศลถวายเป็นพระราชกุศล ณ โรงเรียนวินิตศึกษาซึ่งเป็นโรงเรียนของวัดกวิศรารามราชวรวิหาร จึงเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน ที่ทรงมีต่อชาวลพบุรีในครั้งนั้นด้วย
ส่วนที่บริเวณลานอนุสาวรีย์ท่านท้าวสุรนารี อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา นายณฤทธิ์ บุญปริอาทร อธิบดีผู้พิพากษาภาค3 ร่วมกับ นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นำหัวหน้าส่วนราชการและพ่อค้าประชาชนในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ร่วมกันทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง ในพระราชพิธีพระราชกุศลสัตตมวาร พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช แด่พระภิกษุสงฆ์ จำนวน 99 รูป
เช่นเดียวกันกับที่บริเวณลานพรหมทัต อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา นายโสวัฒน์ ดาวะศรี ปลัดอาวุโส รักษาราชการแทน นายอำเภอพิมาย นำข้าราชประชาชนและพ่อค้าแม่ค้าในพื้นที่อำเภอพิมาย ร่วมกันตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง แด่พระภิกษุสงฆ์ จำนวน 90 รูป เพื่อเป็นการถวายบำเพ็ญพระราชกุศลสัตตมวาร แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยบรรยากาศภายในงานมีประชาชนเป็นจำนวนมาก ต่างพากันสวมใส่ชุดดำ เพื่อแสงความอาลัยมาร่วมงานกันเป็นจำนวนมาก
ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดกระบี่ อำเภอเมืองจังหวัดกระบี่ นายพินิจ บุญเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วยพสกนิกรชาวจังหวัดกระบี่กว่า 9,000 คน มาร่วมพิธีกล่าวแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ถวายอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ประชาชนชาวจังหวัดกระบี่สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน
โดยมีข้อความสำคัญ ในประวัติศาสตร์ของจังหวัดกระบี่ว่าเมื่อวันศุกร์ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2502 เวลา 09.09 น. พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จพระราชดำเนินไปยังศาลากลางจังหวัดกระบี่ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กราบบังคมทูลนำข้าราชการและราษฎรเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท และมีพระราชดำรัสว่า จังหวัดกระบี่สร้างขึ้นมาโดยประชาชนหวังว่าทุกคนจะช่วยกันต่อไปและจังหวัดนี้เชื่อว่าเป็นนิมิตดี เพราะช้างเผือกที่ได้รับมาจากจังหวัดนี้ นี่คือประวัติแห่งความผูกพันนั้นยิ่งใหญ่ ระหว่างในหลวงกับพสกนิกรชาวจังหวัดกระบี่ ที่จะจารึกไว้ในหัวใจจากรุ่นสู่รุ่น ไม่มีวันลืมเลือน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาพสกนิกรจังหวัดกระบี่น้อมนำกระแสพระราชดำรัส เมื่อครั้งนั้นมาปฏิบัติอย่างจริงจัง และเต็มกำลังความสามารถจนบัดนี้จังหวัดกระบี่ครบรอบ 144 ปี ชาวจังหวัดกระบี่ไม่เคยลืม
เมื่อปีพุทธศักราช 2513 ที่พระองค์ท่านเสด็จมาบำเพ็ญพระราชกุศล ณ วัดแก้วโกรวารามพระอารามหลวง อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ ชาวอำเภอลำทับ ภูมิใจและไม่เคยลืม ที่ได้ถวายช้างเผือกช้างแรกแห่งรัชกาลให้กับพระองค์ท่าน ทุกวันนี้ยังมีโครงการพระราชดำริ ที่เป็นพระมหากรุณาธิคุณจากพระองค์ท่านอีกมากมายเช่น โรงกลั่นน้ำมันปาล์มที่อำเภออ่าวลึก โรงสีข้าวพระราชทานที่อำเภอปลายพระยา ศูนย์วิจัยข้าวที่อำเภอเหนือคลอง อ่างเก็บน้ำที่อำเภอเขาพนมและอำเภอคลองท่อม ป่าทุ่งทะเลที่อำเภอเกาะลันตา พสกนิกรชาวจังหวัดกระบี่ขอให้สัตย์ปฏิญาณว่าจะตั้งมั่นเจริญรอยพระยุคลบาท สืบสานพระราชปณิธาน รู้รักสามัคคี เพื่อสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้แก่บ้านเมือง น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวในการดำเนินชีวิต มุ่งมั่น ประกอบคุณงามความดี กตัญญูต่อแผ่นดิน เป็นคนกระบี่ ดีทุกคน ตราบจนชีวิตจะหาไม่ และพระองค์จะสถิตในใจพสกนิกรชาวจังหวัดกระบี่ตราบนิรันดร์ น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น หาที่สุดมิได้
