แม่ใจสลาย ลูกชายวัย 1 ขวบไปอยู่กับพ่อแท้ๆ และแม่เลี้ยงได้ไม่กี่เดือน เลือดคั่งในสมองดับ หมอโทรมาให้ไปดูใจ เพื่อนบ้านเล่าสลด ได้ยินเสียงประจำ แถมถูกขัง

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

วันที่ 3 มี.ค.64 ที่วัดมุจลินทร์ หมู่ 1 ต.ทุ่งตะไคร อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร น.ส.วัลภา แก้วสวี พมจ.ชุมพร เดินทางไปสอบถามรายละเอียด หลังมีข่าวว่าเด็กอายุเพียงขวบครึ่ง ถูกคนใกล้ชิดทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต

ที่ศาลาวัดมุจลินทร์ พบมีการจัดงานบำเพ็ญกุศลศพ ด.ช.เอ (นามสมมติ) อายุ 1 ปี 6 เดือน ลูกชายของ นางบี (นามสมมติ) อายุ 26 ปี โดย น.ส.วัลภาได้สอบถามรายละเอียด ทราบว่า เมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา นางบี ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์จากแพทย์ ร.พ.ชุมพรเขตต์อุดมศักดิ์ ว่า ด.ช.เอ ได้รับบาดเจ็บมีอาการโคม่าจากเลือดคั่งในสมองจำนวนมากขอให้รีบไปดูใจ แต่ตนพักอยู่ที่ จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อเดินทางไปตอนเช้าพบว่าลูกเสียชีวิตแล้ว

แพทย์บอกว่าเกิดจากอาการเลือดคั่งในสมอง มาถึง ร.พ.ชุมพร ในช่วงดึกของคืนวันที่ 27 ก.พ. แพทย์พยายามช่วยชีวิตแต่ไม่ทัน เนื่องจากอาการหนักมาก โดย นายซี พ่อของ ด.ช.เอ บอกว่า ลูกตกจากที่สูงภายในบ้านที่อาศัยกับพ่อและนางอุ้ม อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นแม่เลี้ยง เมื่อออกมาหน้าห้องฉุกเฉิน พบนายซี และ นางอุ้ม อยู่ในอาการหน้าซีด สอบถาม นายซี อ้างว่า ตู้ในห้องล้มทับลูก เมื่อไปดูศพลูกที่บริเวณท้ายทอยพบรอยเขียวซ้ำ และหน้าอกก็พบรอยเขียวซ้ำ จึงนำศพมาตั้งทำบุญที่วัด โดยมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้ห้องพักของ นายซี ว่า ลูกคล้ายถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บอย่างหนักและถึงขั้นเสียชีวิต

ต่อมาวันที่ 2 มี.ค. พ.ต.ท.นรินทร์ พุ่มสวัสดิ์ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ทุ่งตะโก ได้เรียก นายซี และ นางอุ้ม มาสอบปากคำ ทั้งสองให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ทำร้าย ด.ช.เอ แต่ตำรวจไม่เชื่อ เนื่องจากบาดแผลตามร่างกาย ประกอบกับเพื่อนบ้านยืนยันว่า ได้ยินเสียง ด.ช.เอ ร้องให้หนักและนานมาก จึงได้ให้หน่วยกู้ภัยทุ่งตะโก นำศพส่ง ร.พ.ระนอง ชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง

นางบี กล่าวต่อว่า ตนมีลูกกับ นายซี 3 คน เป็นชาย 2 หญิง 1 โดยเมื่อ 5 เดือนที่แล้ว ได้เลิกกับ นายซี จึงแบ่งลูกชายวัย 7 ขวบ และ ด.ช.เอ ให้ นายซี ไปเลี้ยงดู โดย นายซี ไปมีภรรยาใหม่คือ นางอุ้ม ส่วนตนก็ได้สามีใหม่แล้วย้ายไปอยู่ที่ จ.สุราษฏร์ แต่ก็ได้มาเยี่ยมลูกทั้ง 2 คนบ่อยครั้ง และจะได้ยินเพื่อนบ้านรวมถึงญาติพี่น้องเล่าให้ฟังว่า ลูกชายทั้ง 2 คนถูกทำร้ายร่างกายตลอดเวลา เนื่องจากได้ยินเสียงร้องไห้ แทบทุกวัน ทั้งกลางวันกลางคืน และได้ยินเสียงทุบตี ในตอนกลางวันเด็กทั้ง 2 คน จะถูกขังแต่เพียงลำพังในห้องพัก มีเพื่อนบ้านสงสารแอบเอาขนมส่งให้ทางช่องประตูอยู่เสมอ

จนกระทั่งในคืนวันที่ 28 ก.พ. ได้ยินเสียงทุบตีและเสียงร้องของเด็กทั้ง 2 คน จนกระทั่งมีรถฉุกเฉินของหน่วยกู้ภัยทุ่งตะโกมารับตัวไปส่ง ร.พ.ทุ่งตะโก และส่งต่อ ร.พ.ชุมพร จนเสียชีวิตในที่สุด ส่วนตำรวจยังไม่สามารถให้รายละเอียดได้ เนื่องจากยังรวบรวมพยานหลักฐานและสอบปากคำเพิ่มเติม ทางด้าน น.ส.วัลภา กล่าวว่า ได้รายงานให้ นายธีระ อนันตเสรีวิทยา ผวจ.ชุมพร ทราบ ผวจ.ชุมพรได้สั่งการให้ติดตามคดีและให้ความช่วยเหลือ อย่างถึงที่สุด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน