หนุ่มฉ้อโกง จบชีวิตตัวเองพร้อมเมีย-สาวสนิทรุ่นน้อง ที่คอนโดหรู เชียงใหม่ แม่ยายเผย จะถึงตอนนี้ยังทำใจไม่ได้ เชื่อลูกสาว ไม่น่ามีส่วนเกี่ยว
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
จากกรณีที่นายสุเมธ อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกง ยิงภรรยาคือ น.ส.วิชชุดา อายุ 23 ปี และ น.ส.อาณดา อายุ 18 ปี เพื่อนสาวรุ่นน้องคนสนิท ก่อนจบชีวิตตัวเองตาม รวม 3ชีวิต ที่คอนโดหรูกลางเมืองเชียงใหม่ หลังจากที่ นายสุเมธไม่ยอมมอบตัวและให้ตำรวจจับกุม และญาติจะพยายามเกลี้ยกล่อมแต่ไม่เป็นผล
อ่าน : ตร.ลุยค้นห้อง หนุ่มจับเมีย-สาวคนสนิทเป็น ตัวประกัน ญาติเผยพฤติกรรม
ล่าสุด เมื่อเวลา 08.10 น. วันที่ 8 มี.ค.2564 ที่ วัดกาลพัฒนาการาม หรือวัดหนองเข้ ม.5 ต.นาชะอัง อ.เมือง จ.ชุมพร น.ส.นิภาพร อายุ 43 ปี มารดาของ น.ส.วิชชุดา เดินทางไปรับร่างของลูกสาว เพื่อมาตั้งบำเพ็ญกุศลตามพิธีกรรมทางศาสนา โดยจะมีธีฌาปนกิจในวันที่ 10 มี.ค.นี้
น.ส.นิภาพร กล่าวว่า ตอนนั้นตนเองกำลังขายของอยู่ในตลาดบางนอน จ.ระนอง ได้มีตำรวจได้โทรมาว่า ให้เดินทางมาที่ จ.เชียงใหม่ ด่วนเพื่อมาช่วยเจรจากับนายสุเมธ ซึ่งเป็นลูกเขย ได้จับตัว น.ส.วิชชุดา และน.ส.อาณดาเอาไว้ต่อรอง โดยทราบว่าลูกเขยนั้นมีปืนอยู่ในตัวและมีอาการเครียดหนักขู่จะก่อเหตุดังกล่าวขึ้น
น.ส.นิภาพร กล่าวต่อว่า เมื่อได้ยินเช่นนั้น ก็ทิ้งร้าน และรีบเดินทางมาทันที แต่ก็ไม่ทัน ที่จะได้พูดคุยกับลูกเขย ได้มีญาติโทรมาบอกว่า นายสุเมธ และคนอื่นๆได้เสียชีวิตแล้ว ทำให้ตนเองถึงกับทำอะไรไม่ถูก อึ้งไปชั่วขณะเพราะเหลือเพียง ไม่ถึง 100 เมตรก็จะได้มีพูดคุยไกล่เกลี่ยลูกเขย ซึ่งคาดหวังว่าจะเย็นลง และเป็นไปในทางที่ดี โดยหวังว่าจะรับเอาลูกและหลานกลับมา ส่วนคดีก็ว่ากันไปตามกฎหมาย ไม่คิดว่าจะต้องมารับลูกในลักษณะไม่มีลมหายใจแล้ว แต่ก็ยังดีที่ยังเหลือหลานไว้
น.ส.นิภาพร กล่าวต่อว่า สำหรับลูกเขยนั้น ตนเองไม่รู้ว่าทำงานด้านไหน รู้จักกับน้องออย ลูกสาว ได้อย่างไร เพราะตนเองไม่อยากจะก้าวก่ายชีวิตลูกและครอบครัวมากนัก แต่ก็รู้จากปากของลูกเขย เพียงว่า ทำงานเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ อะไรประมาณนั้น และที่ผ่านมาทั้งคู่ก็ดูมีความสุขดี ส่วนใหญ่ใช้ชีวิตอยู่ต่างจังหวัด แต่ไม่ค่อยจะมาหาตนเท่าไหร่ โดยจะใช้รถหรูขับมา และเมื่อมาก็จะอยู่ไม่กี่วัน ก็เท่านั้น และไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ได้ ตนจึงมานั่งไตร่ตรองเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาก่อนเกิดเหตุ น้องออย ได้บอกว่า ได้ฝันว่า ได้กลับมาอยู่กับตน ซึ่งไม่คิดว่ามันคือลางสังหรณ์บอกเหตุ
น.ส.นิภาพร กล่าวอีกว่า ตนเองมารู้ว่าสาเหตุในครั้งนี้ มาจากลูกเขยไปสร้างปัญหาเกี่ยวกับเงินๆทองๆที่ฉ้อโกงมา ซึ่งตนเชื่อว่าลูกสาวนั้น ไม่น่าจะมีส่าวนเกี่ยวข้อง เพราะลูกสาวนั้นเป็นคนดีมาก รักครอบครัวมาก ไม่เคยเห็นลูกสาวแตะต้องในสิ่งที่ไม่ดีเลย ส่วนที่มีคนพูดต่างๆนานานนั้นเราไปห้ามความคิดความอ่านเขาไม่ได้ ตนเองไม่ว่าเขา และตนเองไม่อยากจะเอามาใส่ใจ และไม่อยากรับรู้ใดๆทั้งสิ้น เพราะการสูญเสียในครั้งนี้ มันก็เจ็บปวดมากเพียงพอแล้ว
ป้าน.ส.วิชชุดา กล่าวว่า เหตุการณ์ในครั้งนี้ ยังทำใจไม่ได้ และรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะมันไวเกินไป ได้พูดคุยกับหลานและได้อุ้มเหลน เมื่อไม่กี่วัน อยู่ๆก็มีรู้ว่าหลานถูกสามียิงเสียชีวิต และซ้ำร้ายก่อนเกิดเหตุตนเองก็เดินทางไปด้วย เพื่อจะไปรับหลานและเหลนกลับมาอยู่บ้านที่ชุมพร กลับกลายต้องไปรับศพหลานมาทำบุญ ซึ่งไม่น่าจะเกิดขึ้น
ตนเองยังมองว่า เมื่อสามีเป็นคนก่อเรื่องขึ้นมา ก็ควรจะรับผิดชอบในสิ่งที่ตนกระทำ ไม่ใช่ว่าจะทำร้ายคนอื่นไปด้วย และยิ่งในการก่อเหตุในครั้งนี้ แม้จะไม่ทำร้ายลูกของเขา ก็ตาม แต่ก็ไม่ควรทำร้ายภรรยาของเขา ควรจะปล่อยภรรยา ไว้เพื่อจะได้อยู่เลี้ยงลูก ไม่ใช่ฆ่าหมด จะได้หมดปัญหา
