วันที่ 19 ต.ค. พ.ต.ท.ทนง เพิ่มพูน นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐเขต 3 จ.นครราชสีมา พร้อมพ.ต.ท.ทศพร เส็งเรียบ สว.กก.สส.ภ.จว.อุบลราชธานี นำกำลังจับกุมนางบันนภา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 44 ปี เจ้าพนักงานที่ดินอาวุโส ของจังหวัดอุบลราชธานี ขณะรับเงินจากผู้เสียจำนวน 4,200 บาท ภายในบ้านหลังหนึ่งใน ต.เตย อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี

สืบเนื่องจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐเขต 3 จ.นครราชสีมา ได้รับการร้องเรียนจากนางพิสมัย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี ชาวบ้านหมู่บ้านเตย ซึ่งระบุว่า เมื่อเดือนกันยายน พ.ศ.2553 นางพิสมัย ได้ยื่นคำร้องขอออกโฉนดที่ดินจากเดิมเป็น ส.ค.1 จำนวน 13 ไร่ ตามคำขอฉบับที่ 1034/919/2553 ลงวันที่ 7 ก.พ.2553 ต่อมาเมื่อเดือนกันยายน พ.ศ.2555 นางพิสมัย ได้ไปจ่ายเงินค่าธรรมเนียมในการออกรังวัด จนถึงเดือนตุลาคม พ.ศ.2558 ได้รับการติดต่อจากนางบันนภา ให้เข้าไปจ่ายเงินค่าออกโฉนดอีกครั้งจำนวน 1,200 บาท

ล่าสุดเมื่อเดือนกันยายน พ.ศ.2559 นางพิสมัย ก็ได้รับการติดต่อจากนางบันนภา อีกครั้งว่า ที่ดินของนางพิสมัย ตั้งอยู่ติดกับป่าชุมชน ไม่สามารถออกโฉนดได้ทันที จะต้องมีคณะกรรมการระดับอำเภอรวม 7 คน ออกมาเดินสำรวจแนวเขตออกโฉนดอีกครั้ง ซึ่งมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมให้กับคณะกรรมการที่ไปคนละ 600 บาท และไม่ต้องมาจ่ายที่สำนักงานที่ดินอำเภอ ให้เตรียมจ่ายกับนางบันนภาเพียงคนเดียว นางพิสมัย จึงเกิดความสงสัย จึงทำเรื่องร้องเรียนไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐเขต 3 ให้เข้าตรวจสอบพฤติกรรมของนางบันนภา พนักงานที่ดินรายนี้

หลังได้รับคำร้องเรียนเมื่อวันที่ 18 ต.ค. พ.ต.ท.ทนง พร้อมชุดสืบสวน ปปท.ได้นำธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 4 ฉบับ และธนบัตรฉบับละ 100 บาท 2 ฉบับ ไปลงประจำวันไว้ที่ สภ.เดชอุดม และประสานขอกำลังจาก พ.ต.อ.สหรัฐ ประสงค์นิจกิจ รอง ผบก.ภ.จว.อุบลราชธานี ส่งกำลังชุดสืบสวนเข้าวางแผนร่วมกันเจ้าหน้าที่ ปปท.จับกุมนางบันนภา โดยให้ นางพิสมัยนำธนบัตรที่เจ้าหน้าที่ลงบันทึกประจำวันไว้ใส่ในซองสีชมพู เมื่อถึงเวลานัดหมาย นางบันนภา พร้อมคณะกรรมการรวม 6 คน เดินมาพบนางพิสมัย ที่บ้านหลังดังกล่าว โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ซุ่มรออยู่บริเวณใกล้ๆ เมื่อนางพิสมัยส่งสัญญาณว่าได้มอบเงินทั้งหมดให้นางบันนภาแล้ว เจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวเข้าจับกุมทันที พร้อมเงินสดของกลางในกระเป๋า ซึ่งนางบันนภา อ้างว่า เป็นเงินที่นางพิสมัยมอบให้เป็นสินน้ำใจใช้ดูแลคณะกรรมการที่มาร่วมสอบเขตแนวที่ดินของนางพิสมัย

จากนั้นจึงคุมตัวนางบันนภา ส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งนางบันนภา ก็ได้ใช้ตำแหน่งของตัวเองประกันตัวออกไป ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ได้อนุญาต เนื่องจากนางบันนภา เป็นข้าราชการ มีที่อยู่ชัดเจน ไม่มีพฤติกรรมหลบหนี หลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะสรุปสำนวนการสอบสวนส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ เขต 3 จ.นครราชสีมา ใช้เป็นหลักฐานชี้มูลการกระทำความผิดต่อหน้าที่ราชการภายในเวลา 30 วันต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน