ตำรวจ กู้ภัยกว่า 50 นาย ปิดป่าล้อมจับ โจรแอบปีนเข้าบ้าน ที่ท้าย หมู่บ้านอัจฉราประตูน้ำท่าไข่ ม.1 ต.ท่าไข่ อ.เมืองฉะเชิงเทราหนีซุกพงหญ้า สุดท้ายไม่รอด
เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 22 มี.ค. 2564 พ.ต.อ.ณัฐจักร จันลา ผกก.สภ.เมืองฉะเชิงเทรา นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา พร้อมอาสาสมัครกู้ภัยกว่า 50 นาย ทำการปิดล้อมป่าหลังโรงเรียนวัดประตูน้ำท่าไข่ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา หลังได้รับแจ้งจากนายสมเกียรติ อายุ 50 ปี
ว่ามีคนร้ายลักษณะผอม ผิวคล้ำ อายุประมาณ 20-30 ปี สวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงขาสั้น เจเจ ปีนเข้าไปในบ้านของตน ซึ่งขณะนั้นตนเองกำลังนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ด้านล่าง ส่วนลูกสาววัย 12 และภรรยาของตนอยู่ด้านบนบ้าน เมื่อตนเห็นชายคนดังกล่าวกำลังปีนเข้าบ้าน จึงตะโกนถาม ทำให้คนร้ายตกใจ รีบกระโดดข้ามกำแพง ก่อนจะวิ่งหลบหนีอย่างรวดเร็ว ไปซุกตัวในป่าหญ้า ภายในหมู่บ้านจึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยเหลือ
จากนั้นกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา พร้อมทีมอาสาสมัครกู้ภัย ได้ทำการปิดล้อม ตรวจค้นบริเวณโรงเรียนวัดประตูน้ำและตามอาคารชั้นเรียนต่างๆ ส่วนกำลังเจ้าหน้าที่อีกส่วนได้เดินปูพรหมภายในป่าหญ้าด้านหลังโรงเรียน เจ้าหน้าที่พยายามส่องไฟหาและใช้ไม้กระทุ้งตามพงหญ้า เพื่อให้คนร้ายออกมา โดยใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมงก็ไม่มีวี่แววว่าคนร้ายจะออกมา
พ.ต.อ.ณัฐจักร ได้สั่งเจ้าหน้าที่ถอนกำลังออกมาจากป่า แต่ให้ปิดล้อมโดยรอบ เพราะเกรงว่าหากคนร้ายมีอาวุธจะเป็นอันตรายกับเจ้าหน้าที่ ที่เข้าไปปฏิบัติงาน พร้อมประสานรถไถดินมาทำการไถป่า เพื่อกดดันคนร้ายให้ออกมา ขณะที่รอรถไถ
เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เฝ้าอยู่ด้านบนกำแพงโรงเรียนได้ยินเสียงเหมือนมีคนหายใจเหนื่อยหอบ ที่พงหญ้าที่เจ้าหน้าที่เข้าไปไม่ถึง ก่อนตะโกนเรียกให้เจ้าหน้าที่ด้านนอก ที่ถอนกำลังออกไปแล้วเข้ามาสมทบ จนเจอตัวคนร้ายนอนหมอบราบอยู่ในพงหญ้า เจ้าหน้าที่จึงเข้าควบคุมตัว ก่อนนำตัวออกมาสอบสวนด้านนอก
จากการสอบถามทราบชื่อคนร้ายต่อมาคือ นายสมชาย อายุ 38 ปี เคยทำงานก่อสร้างที่กรุงเทพมหานคร แต่ตกงานมานานกว่า 3-4 เดือนแล้ว จึงนั่งรถมาที่ฉะเชิงเทรา เพื่อหางานทำแต่ก็ไม่มีคนรับเข้าทำงาน ซึ่งวันนี้ตั้งใจเข้าไปขโมยของในบ้านหลังดังกล่าว แต่เจ้าของบ้านเห็นเสียก่อน จึงรีบหนีออกมาซุกตัวภายในป่าก่อนจะมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ในที่สุด
ด้าน พ.ต.อ.ณัฐจักร เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบประวัติ และพบว่าผู้ต้องหารายนี้เคยมีคดีเกี่ยวข้องกับยาเสพติด จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวไปตรวจปัสสาวะที่สถานีตำรวจ เบื้องได้ตั้งข้อหาบุกรุกในเคหะสถานในยามวิกาล และข้อหาพยายามลักทรัพย์ ซึ่งหากผลประสาวะมีสารเสพติดก็จะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมต่อไป
