อธิบดีกรมสุขภาพจิต ชี้พุทธศาสนาไม่มีเรื่องปลิดชีวิตเป็นพุทธบูชา ศีล 5 ยังห้ามฆ่าสัตว์ตัดชีวิต เตรียมส่งทีมทีมจิตแพทย์ดูการขยายวงในชุมชน ย้ำอย่าทำเป็นเรื่องสำคัญ

วันที่ 18 เม.ย.2564 พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวถึงกรณีพระทำการอัตวินิบาตกรรมตัดคอถวายเป็นพุทธบูชา ว่า ความเชื่อหรือแนวคิดเช่นนี้ไม่อยู่หรือไม่สอดคล้องกับหลักพระพุทธศาสนา เนื่องจากพระพุทธเจ้าไม่เคยต้องการลาภสักการะหรือสิ่งของเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา แต่ต้องการให้พุทธศาสนิกชน น้อมนำคำสั่งสอนไปปฏิบัติตามเพื่อให้เกิดการหลุดพ้น ขณะที่หลักศีล 5 พื้นฐาน

” ข้อ 1 ยังห้ามไม่ให้มีการฆ่าสัตว์ตัดชีวิตผู้อื่นแล้วจะสนับสนุนส่งเสริมให้มีการฆ่าตนเอง เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาและหวังเกิดเป็นปัจเจกพุทธเจ้าได้อย่างไร ดังนั้นขอให้คนที่เชื่อและศรัทธาชั่งใจในความเชื่อนี้ ที่ผ่านมาความเชื่อทางศาสนามักสุดโต่ง บ้างก็ว่าการฆ่าตัวตายเป็นบาป อย่างไรก็ตาม ไม่อยากให้มีความเชื่อเช่นนี้ คนใกล้ชิดหากพบเห็นคนเชื่อเรื่องการฆ่าตัวตายเป็นบุญ ก็ควรต้องตักเตือน”

ปลิดชีพถวาย

พญ.พรรณพิมล กล่าวต่อว่า ความเชื่อทางศาสนา อยากให้ประชาชนนำเรื่องแก่นแท้มาศึกษาและทำความเข้าใจ การวางแผนฆ่าตัวตายมานานกว่า 5 ปีในกรณีนี้ และมีคนทราบจำนวนมากแต่ไม่มีใครห้าม อาจเป็นการผสมกันระหว่างความเชื่อและความคิดผสมรวมกัน เมื่อนานวันเข้าก็เชื่อตามความคิด โดยไม่ได้เกลาความคิด คนเปราะบางก็เชื่อแบบนั้น และอาจส่งต่อความเชื่อให้ขยายวงกว้าง ดังนั้น กรมสุขภาพจิตจะส่งทีมลงไปดูวงกว้างผลกระทบในชุมชน ถ้าไม่แผ่ในวงกว้างก็เหมือนเหตุการณ์หนึ่งที่ผ่านไป และเรียนรู้ไม่ให้เกิดภาวะซ้ำอีก ส่วนใครมีภาวะอ่อนไหวมากก็จะหามาตรการป้องกัน นอกจากนี้ก็อยากขอความร่วมมือไม่เผยแพร่และไม่ส่งต่อข้อมูลขั้นตอนการฆ่าตัวตาย เพราะหลายครั้งพบว่าทำให้เกิดการลอกเลียนแบบ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีความเปราะบาง

การที่มีภาพหรือนำเสนอข่าวดึงให้เกิดความสำคัญ ทำให้คนมีแนวโน้มความคิดอยู่แล้วเข้ามามากขึ้น ส่วนลัทธิหรืออะไรไม่ใช่แค่เป้าหมายฆ่าตัวตายเพื่อบูชาเท่านั้น แต่จะดึงจุดอ่อนของผู้คนมาร่วมกัน เช่น กลุ่มคนไม่ได้รับความรัก ถูกปฏิเสธ เราเท่านั้นที่เข้าใจกัน จะมารวมกลุ่มกันก่อน และกล่อมเกลาว่านี่คือวิธีการที่ถูกต้อง และมักจะพบบ่อยเอาแนวคิดว่าการทำแบบนี้เป็นการบูชา โดยหลักการแล้วทุกคนจะรู้ว่าไม่จริงทั้งหมด ในที่สุดก็สิ้นชีวิตไป ไม่ได้เกิดอะไรขึ้นอย่างที่ผู้นำลัทธิเคยกล่าวอ้าง

ปลิดชีพถวาย

พญ.พรรณพิมล บอกด้วยว่า การป้องกันจิตใจตนเองเป็นเรื่องสำคัญ แต่แต่ละคนมีความเปราะบางทางจิตใจไม่เท่ากัน เราจึงไม่อยากให้ขยายวงกว้าง เพราะไม่รู้ว่าคนรับสารตัวนี้ไปจะกลั่นกรองแค่ไหน คนมั่นคงทางจิตใจก็คงเข้าใจมองแบบเข้าใจเหตุการณ์ คนอ่อนไหวอาจจะโน้มเข้าไปหา ต้องอยู่ที่ตัวเองต้องแยกแยะ และคนรอบข้างคนอ่อนไหวว่า คนใกล้ตัวเราอ่อนไหวขนาดไหน เชื่อว่าความใกล้ชิดและการพูดคุยกันเป็นทางเลือกและทางออกที่ดีกว่า ต้องฝากหวังว่าจะไม่เป็นปรากฏการณ์ทำให้ดูน่าสนใจ เป็นเรื่องต้องปฏิบัติ

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน