รวบ 23 แรงงานเขมร หนีโควิด ลอบข้ามแดนเข้าเมือง หางานทำในกทม.ผลักดันกลับประเทศ เผยลอบเดินข้ามช่องทางธรรมชาติ ก่อนมีคนมารับไปทำงาน
เมื่อวันที่ 20 เม.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระยะนี้ช่วงโควิดระบาดหนักในประเทศไทย โดยเฉพาะกัมพูชา ซึ่งขณะนี้มีรายงานว่ามีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เป็นจำนวนมาก พลตรี อมฤต บุญสุยา ผู้บัญชาการกองกับบูรพา สระแก้ว จึงสั่งการให้ พ.อ.เฉลิมเกียรติ กกล.บูรพา รอง ผบ.ฉก.ตาพระยา เข้าประสานจาก ชุดสืบ สภ.โคกสูง ออกลาดตระเวณ ป้องกันการลักลอบหลบหนีเข้าเมือง โดยผิดกฎหมาย ในพื้นที่ อ.โคกสูง จึงได้วางสายรายงานจนทราบแน่ชัดว่า จะลักลอบขนแรงงานชาวกัมพูชาเพื่อที่จะเดินทางไปทำงานในกทม.
ต่อมาเมื่อเวลา 06.00 น. พบรถยนต์ 2 คัน ขับมาที่บ้านหลังหนึ่งใน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ทางเจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเพื่อจับกุม
พบว่ามีผู้ลักลอบเข้าเมืองเป็นชาวกัมพูชาจำนวน 23 คน เป็นชาย 15 คน หญิง 8 คน อยู่ในรถ ยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า สีแดง ทะเบียน 7 กฌ 2205 กรุงเทพมหานคร และพบจำนวน 6 คน อยู่ในรถยนต์ยี่ห้อ โตโยต้าสีบอนส์ทอง ทะเบียน ญส 5083 กรุงเทพมหานคร จำนวน 9 คน และยังพบว่า ยังมีชาวกัมพูชารออยู่ในบ้านของนาง บานเย็น อายุ 69 ปี ชาวบ้าน ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว จำนวน 8 คน พร้อมกับ ผู้นำพาชาวไทย 2 คน และเจ้าของบ้าน
จากการสอบสวนผู้นำพาชาวไทยทั้ง 2 คน แจ้งว่าได้รับการว่าจ้างให้ติดต่อนำส่งแรงงานเขมรเข้าไปทำงานในเขตปริมณฑล รายละ 900 บาท โดยให้นำแรงานไปส่งในพื้นที่ปลายทางประกอบด้วย จ.ฉะเชิงเทรา 3 คน ตลาดไท 1 คน ซอยอุดมสุข กทม 2 คน ห้วยขวาง กทม.2 คน จ.ปราจีน 2 คน จ.สมุทรปราการ 2 คน จ.นครนายก 2 คน จ.ระยอง 3 คน จ.ชลบุรี 5 คน และ พัทยา 5 คน
ชาวกัมพูชาให้การว่า เดินเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติ พอข้ามมาก็จะมีรถรับมาส่งมาที่บ้านของนางบานเย็น เพื่อรอขึ้นรถไปยังตำบลปลายทางต่อไป
เจ้าหน้าที่จึงนำผู้ต้องหาทั้งหมดไปสอบสวนขยายผลต่อผู้นำพาและผู้ให้ที่พักพิงเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ที่สภ.โคกสูง สำหรับแรงงานชาวกัมพูชาบันทึกจับกุม และทำการผลักกันออกนอกราชอาณาจักร ที่จุดผลักดัน โอปาเจือน โดยผู้ต้องหาทั้ง 25 คน ได้ตรวจคัดกรองตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด -19 ผลการตรวจวัดอุณหภูมิปกติทั้ง 25 คน
