รวบ 7 ผู้ต้องหา ขนยาไอซ์ล็อตใหญ่ 600 กิโลกรัม ซิ่งหนีแหกด่าน 2 จังหวัด รับสารภาพสิ้น ขนจากเชียงราย เอาไปส่งในพื้นที่ภาคกลาง

สภ.แม่พริกจับยาไอซ์ล็อตใหญ่ 600 กิโลกรัม รวบ 7 ผู้ต้องหาชาวสุพรรณบุรี ขับรถหลบหนีไปได้ 2 คัน แต่เจ้าหน้าที่ด่านตรวจ สภ.พยุหคีรี จ.นครสวรรค์ และ สภ.วชิรบารมี จ.พิจิตร ช่วยสกัดจับไว้ได้

เมื่อเวลาประมาณ 03.30 น. วันที่ 19 เม.ย.64 พ.ต.อ.นพดล ใบเรือ ผกก.สภ.แม่พริก พ.ต.ท.วัชระ พนิตธรรมกูล รอง ผกก.ป.สภ.แม่พริก พ.ต.ท.ทองใบ ขัดปิน รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.อนุพงษ์ อิ่มใจ รอง ผกก.(สอบสวน),พ.ต.ท.สมคิด กิตติกาจ สว.สส.ฯ,พ.ต.ท.เกรียงไกร รัตนะ สว.(สอบสวน)

ร่วมกับเจ้าหน้าที่ สภ.วชิรบารมี จ.พิจิตร นำโดย พ.ต.อ.ทัพพ์เศรษฐ์ เขื่อนแก้ว ผกก.สภ.วชิรบารมี เจ้าหน้าที่ กก.3 บก.ปส.3 ด่านตรวจพยุหะคีรี นำโดย พ.ต.อ..อนุชิต อุดมภักดี ผกก.3 บก.ปส 3 ,เจ้าหน้าที่ บก.สกส.บช.ปส. นำโดย พ.ต.ท.สุภเวช มั่งคั่ง สว.กก.บก.สกส.

ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหาลักลอบขนยาเสพติด 7 คน ประกอบด้วย นายอภิวัฒน์ สุขอำภร อายุ 24 ปี ที่ นายภาคิน เหลี่ยมกำแหง อายุ 24 ปี นายศักดา งามขำ อายุ 25 ปี น.ส.น้ำฝน ธัญญเจริญ อายุ 23 ปี นายธนากร มะขันทอง อายุ 81/2 น.ส.ปิยะวรรณ ก่วยสกุล อายุ 30 ปี และ น.ส.ดารารัตน์ สมจิตร์ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 81/1 หมู่ 6 ต.บ้านโพธิ์ อ.เมืองสุพรรณบุรี จว.สุพรรณบุรี ผู้ต้องหาที่ 7 (คนนั่งโดยสารหมายเลขทะเบียน 4 กต 9079 กทม. )

จับยาไอซ์ หนัก 600 กิโลกรัม

พร้อมของกลาง ยาไอซ์ บรรจุอยู่ในซองชาสีเขียวมีพลาสติกกันกระแทกห่อหุ้มอีกชั้นหนึ่ง อยู่ในถุงปุ๋ยและเป้สีเขียวบรรจุอยู่ในถุงกระสอบสายรุ้ง 10 ถุง รวม 500 ก้อน น้ำหนักก้อนละประมาณ 1 กิโลกรัม รวมน้ำหนักทั้งหมดประมาณ 500 กิโลกรัม บรรทุกอยู่บนที่นั่งผู้โดยรถยนต์ อีซูซุ มิวเอ็กซ์ สีเทาดำ และพบบรรจุในถุงปุ๋ย และ เป้สีเขียว บรรจุอยู่ในถุงกระสอบสายรุ้ง 2 ถุง รวม 100 ก้อน น้ำหนักก้อนละประมาณ 1 กิโลกรัม รวมน้ำหนักทั้งหมดประมาณ 100 กิโลกรัม วางอยู่บริเวณริมถนนพหลโยธิน(ขาขึ้น)หลักกิโลเมตรที่ 592-593 รวมของกลาง เป็นยาไอซ์ทั้งหมด 600 กิโลกรัม

รถยนต์ 3 คัน ประกอบด้วย รถยนต์ อีซูซุ มิวเอ็กซ์ สีเทาดำ รถกระบะ โตโยต้า รีโว่ สีเทา และรถเก๋ง โตโยต้า สีเทา มือถือรวม 8 เครื่อง โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รับแจ้งจากสายลับ ว่าจะมีขบวนการลักลอบขนยาเสพติดกลุ่ม จ.สุพรรณบุรี โดยจะใช้รถยนต์เป็นยานพาหนะจากพื้นที่ภาคเหนือตอนบนไปส่งยังพื้นที่ภาคกลาง

ใช้กล้องวงจรปิดอ่านป้ายทะเบียนสืบหาคนร้าย

จึงร่วมกันวางแผนเพื่อตรวจสอบรถยนต์ตามที่ได้รับแจ้ง โดยได้ตรวจสอบจากระบบกล้องวงจรปิดอ่านป้ายทะเบียนรถแบบอัตโนมัติ เพื่อค้นหารถยนต์เป้าหมาย ที่เดินทางมาจากพื้นที่ภาคกลางไปยัง จ.เชียงราย พบข้อมูลว่ามีรถยนต์ต้องสงสัย 3 คัน

ตรวจเช็กรายละเอียดข้อมูลผู้ครอบครองรถเป็นคนพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี วิ่งติดตามกันจากภาคกลางขึ้นไปในพื้นที่ จ.เชียงราย และกำลังวิ่งมุ่งหน้าลงมายังจุดตรวจแม่พริก เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงได้ติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มขบวนดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง โดยได้วางแผนจัดกำลังตามจุดต่างๆ

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมกำลังปฏิบัติหน้าที่ บริเวณหน้าจุดตรวจยาเสพติดแม่พริกนั้น มีรถเก๋งโตโยต้า สีเทา ตรงกับเป้าหมายว่าเป็นรถนำทาง ภายในรถมีคนขับและผู้โดยสาร รวม 3 คน จากนั้นรถคันดังกล่าวได้หยุดจอดห่างจากจุดตรวจ ประมาณ 100 เมตร แล้วมีคนที่อยู่ภายในรถยนต์ชะโงกออกมามอง เจ้าหน้าที่จึงวางแผนทำทีว่าเลิกปฏิบัติงาน แล้วรถเก๋งคันกล่าวจึงวิ่งออกไปจากที่จอด

รถเป้าหมายซิ่งหนีด่านตำรวจ

ในเวลาต่อมา มีรถยนต์ อีซูซุ มิวเอ็กซ์ สีเทาดำ มาถึงจุดตรวจ ซึ่งตรงกับรถยนต์เป้าหมาย ในรถยนต์มีคนขับ และผู้โดยสารรวม 2 คน จึงเรียกให้หยุดจอด แต่รถยนต์คันดังกล่าว เร่งเครื่องยนต์หลบหนีไปทางถนนพหลโยธินขาล่อง

เจ้าหน้าที่ไล่ติดตาม ไปจนถึงบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 589 พบรถยนต์คันดังกล่าว เสียหลักจอดอยู่ร่องกลางถนน โดยเปิดประตูด้านผู้โดยสารทิ้งไว้เครื่องยนต์ยังติดอยู่ เจ้าหน้าที่จึงแบ่งกำลังออกติดตาม อีกทั้งประสานงานพื้นที่ใกล้เคียงให้ช่วยสกัดจับ

ต่อมาได้รับแจ้งจากด่านตรวจพยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ สกัดจับรถเก๋งโตโยต้า พร้อมบุคคลในรถ 5 คน ได้ ให้การยอมรับว่าได้หลบหนีการจับกุมจากจุดตรวจยาเสพติดพื้นที่ สภ.แม่พริก

โดย น.ส.ปิยะวรรณ ก่วยสกุล ให้การว่าร่วมกับ นายธนากร มะขันทอ คนขับรถ และ น.ส.ดารารัตน์ สมจิตร์ ไปรับ นายอภิวัฒน์ สุขอำภร และนายภาคิน เหลี่ยมกำแหง ที่จอดรถยนต์อีซูซุ มิวเอ็กซ์ สีเทาดำ ทิ้งไว้และพากันหลบหนี เพื่อจะไป จ.สุพรรณบุรี จึงร่วมกันจับกุมและควบคุมตัวมายัง สภ.แม่พริก เพื่อดำเนินคดี

ส่วนเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมอีกชุดหนึ่งได้ตรวจสอบใน รถกระบะอีซูซุ มิวเอ็กซ์ สีเทาดำ พบถุงกระสอบสายรุ้ง จำนวน 10 ถุง ภายในบรรจุยาเสพติดลักษณะเป็นเกล็ดสีขาวอัดเป็นก้อนสีเหลี่ยม เมื่อนำตัวอย่างมาทดสอบกับน้ำมาร์คควิด ผลปรากฏเป็นสีน้ำตาลเข้ม ระบุได้ว่าเป็นเมทแอมเฟตามีนหรือยาไอซ์

กระบะอีกคัน หนีด่าน ทิ้งยา 100 กิโลกรัม

และในเวลาต่อมา มีรถกระบะ โตโยต้า สีเทาขับมาถึงจุดตรวจด้วยความเร็ว ซึ่งตรงกับรถยนต์เป้าหมายอีกคัน ภายในรถยนต์มีคนขับและผู้โดยสาร 2 คน เมื่อเห็นรถเจ้าหน้าที่เปิดไฟสัญญาณ จึงกลับรถและทิ้งวัตถุต้องสงสัยลักษณะคล้ายกระสอบ จำนวน 2 ใบลงจากรถที่บริเวณข้างถนนพหลโยธินขาขึ้น ห่างจากจุดตรวจประมาณ 1 กม.

ตรวจสอบเป็นถุงกระสอบสายรุ้ง ข้างในถุงมีกระสอบฟาง จึงได้แกะดูพบว่าเป็นยาเสพติด(เมทแอมเฟตามีนหรือยาไอซ์) 100 ก้อน รวม 100 กิโลกรัม จึงจัดกำลังไล่ติดตามประสานงานพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียง

ต่อมด้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำจุดตรวจบ้านนา สภ.วชิรบารมี จ.พิจิตร ว่ามีรถกระบะ โตโยต้า สีเทา พร้อมผู้ต้องหาทั้ง 2 คน คือ นายศักดา งามขำ คนขับรถ และน.ส.น้ำฝน ธัญญเจริญ ผู้โดยสาร แล่นมาถึงด่านตรวจบ้านนา จึงเรียกให้หยุดเพื่อขอทำการตรวจค้น

โดยทั้งสองให้การรับว่าได้หลบหนีมาจากจุดตรวจยาเสพติดพื้นที่ สภ.แม่พริก แล้วทิ้งถุงที่บรรจุยาเสพติด จำนวน 2 ถุง ที่บริเวณข้างถนนพหลโยธินขาขึ้น จึงได้ร่วมกันจับกุมและควบคุมตัว ส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่พริก เพื่อดำเนินคดี

สอบเข้ม 7 ผู้ต้องหา รับยาส่งสุพรรณบุรี

จากการซักถามผู้ต้องหาทั้ง 7 คน ให้การยอมรับว่าได้ร่วมกันลักลอบขนยาเสพติดของกลางดังกล่าว จากพื้นที่ จ.เชียงราย เพื่อนำส่งปลายในพื้นที่ภาคกลาง โดยใช้รถยนต์ของกลาง จำนวน 3 คัน เป็นยานพาหนะในการลักลอบขนยาเสพติดในครั้งนี้

โดยใช้เส้นทางถนนพหลโยธินจาก อ.พาน จ.เชียงราย ผ่าน จ.พะเยา เข้าทาง อ.งาว และมาถูกจับกุมได้ที่ด่านตรวจยาเสพติด สภ.แม่พริก จ.ลำปาง

เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1(เมทแอมเฟตามีนหรือยาไอซ์)ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ผู้ต้องหาทั้ง 7 คน ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงได้ทำการควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 7 คน เพื่อทำการขยายผลหาเครือข่ายยาเสพติดดังกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน