ผกก.โรงพักเมืองขอนแก่น แจงจราจรล็อกล้อรถกระบะ ทำหญิงคนขับโวยลั่นหน้าตลาด “กินภาษีประชาชน หากินแบบนี้เหรอ” เผย ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ถ้าจอดไม่นานก็อะลุ่มอล่วยให้อยู่แล้ว
วันที่ 27 เม.ย.2564 จากกรณี นางวัชราภรณ์ (ขอสงวนนามสกุล) ชาว อ.เมือง จ.ขอนแก่น ออกมาร้องรถกระบะถูก ตำรวจจราจร สภ.เมืองขอนแก่น ล็อกล้อขณะจอดไว้ริมถนนหน้าตลาดก่อนถึงรพ.ขอนแก่น ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น โดยระบุว่าตำรวจทำเกินกว่าเหตุ เนื่องจากจอดรถเปิดไฟเลี้ยวซ้ายไว้แล้วลงไปซื้อน้ำปั่น 2 ถุง ไม่ได้จอดรถแช่นาน เพราะกลัวโรคโควิดอีกทั้งมีผู้โดยสารนั่งอยู่ในรถ ไม่ได้กีดขวางการจราจร
ล่าสุดเรื่องนี้ พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงขึ้นมา เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายแล้ว พร้อมทั้งให้ตำรวจจราจรรายดังกล่าวเปลี่ยนไปทำหน้าที่อำนวยความสะดวกด้านการจราจรจนกว่าการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้วเสร็จ เบื้องต้นฝ่ายจราจรรายงานมาว่า ร.ต.อ.สุพิศม์ ไสยเลิศ รอง สว.(จร.) สภ.เมืองขอนแก่น ออกปฏิบัติหน้าที่กวดขันการจราจรตามปกติ ได้ใช้เครื่องบังคับล้อ รถที่จอดซ้อนคันบริเวณหน้าตลาดใกล้รพ.ศูนย์ขอนแก่น
“ช่วงเวลาต่อมาได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ ให้ปลดบังคับล้อ เนื่องจากผู้ขับขี่ชำระค่าปรับเรียบร้อย จึงได้ไปปลดบังคับล้อ และบริเวณหลังรถที่เพิ่งปลดบังคับล้อได้มีรถยนต์คันหมายเลขทะเบียน กบ-8801 ขอนแก่น จอดซ้อนคันอยู่ และเจ้าของรถคันด้านหน้าได้ชี้ให้บังคับล้อคันดังกล่าวด้วย เนื่องจากกระทำความผิดจอดรถซ้อนคันในลักษณะเดียวกัน จึงตรวจสอบไม่พบผู้ขับขี่และไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ จึงได้บังคับล้อในลักษณะเดียวกัน เมื่อบังคับล้อเสร็จได้มีผู้หญิงมาต่อว่าให้ปลดเครื่องบังคับล้อ โดยใช้คำว่า “ตำรวจกินภาษีประชาชน หากินแบบนี้เหรอ” จึงได้แจ้งให้ไปเปรียบเทียบปรับตามระเบียบ เนื่องจากได้บังคับใช้กฎหมายแล้วทำให้หญิงคนดังกล่าวไม่พอใจจึงอัดคลิปไลฟ์สดดังกล่าวขึ้น”
พ.ต.อ.ปรีชา กล่าวต่อว่า กรณีนี้ต้องแยกเป็น 2 ส่วน คือตามกฎหมายและทางปฏิบัติ โดยในส่วนทางกฎหมายนั้น ถือว่าเจ้าของรถกระบะกระทำความผิดในเรื่องจอดซ้อนคัน ซึ่งไม่ใช่ว่ามีเพียงเจ้าของรถกระบะรายนี้เท่านั้นที่ถูกล็อกล้อ แต่ตำรวจจราจรล็อกล้อทุกคันที่ฝ่าฝืนตามกฎหมายเพื่อกวดขันวินัยจราจรในพื้นที่ ตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดและถูกต้อง
” แต่ในทางปฏิบัตินั้น สภ.เมืองขอนแก่น ได้มอบนโยบายในการปฏิบัติหน้าที่ หากตรวจสอบพบว่าจอดไม่เกิน 5 นาทีถึง 10 นาที หรือจอดส่งของชั่วคราวในจุดห้ามจอด ก็จะมีการพูดคุยกับเจ้าของรถให้ทราบถึงข้อกฎหมาย และอะลุ่มอล่วยกันเพื่อลดความกระทบกระทั่งกับพี่น้องประชาชน แต่ในเหตุการณ์นี้เบื้องต้นได้รับรายงานว่าไม่มีใครอยู่ในรถจึงได้ทำการล็อกล้อตามขั้นตอน พอล็อกล้อเสร็จเจ้าของรถก็เดินกลับมาที่รถพอดีและเกิดเหตุการณ์ขึ้น “
