ตม.โคราชยัน ไม่เคยปรับต่างด้าววันละ 500 ยืดเวลาให้ แถมช่วยประสานสถานทูตด้วย ชี้คนโพสต์ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว แต่เป็นเรื่องของเมียเพื่อน ทำคนเข้าใจผิด
วันที่ 27 เม.ย.64 จากกรณีโลกโซเชียลได้รีทวีตข้อความจากผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่ง ซึ่งได้มีการลงข้อความพาดพิงถึง ตม.จว.นครราชสีมา ในกรณี “ชาวพม่า ต่อพาสปอร์ต ไม่ได้เนื่องจากสถานทูตพม่าปิด พอชาวพม่าที่อาศัยอยู่ในโคราชไปแจ้งว่า หนังสือเดินทางหมดอายุ ตม.โคราช บอกไม่รับรู้ ปรับวันละ 500 แล้วเขาจะต่ออายุยังไง ถ้าปิดไปอีกเดือน ก็ปรับ 15,000 เลยเหรอ” นั้น
ล่าสุด ตม.จว.นครราชสีมา ได้ตรวจสอบกรณีดังกล่าวแล้วพบว่า กรณีนี้ผู้ใช้ทวิตเตอร์โพสต์ข้อความข้างต้น ไม่ได้เป็นผู้รับผลกระทบจากกรณีที่ได้โพสต์ หากแต่เป็นเรื่องของภรรยาเพื่อน (สัญชาติพม่า) ของผู้โพสต์ กล่าวคือ ชาวพม่าดังกล่าว เป็นภรรยาของบุคคลผู้มีสัญชาติไทย ซึ่งเมื่อวันที่ 11 พ.ย.63 ได้ยื่นคำร้องขออนุญาตอยู่ต่อประเภทสามีไทย และได้รับการอนุญาตให้อยู่ต่อถึง 27 เม.ย.64 (อนุญาตเท่าหนังสือเดินทาง)
ซึ่งต่อมา ชาวพม่าได้เดินทางมาเพื่อยื่นคำร้องขออยู่ต่อที่ ตม.จว.นครราชสีมา อีกครั้ง เพื่อขออนุญาตอยู่ต่อในราชอาณาจักรเกินกว่าวันที่ 27 เม.ย.64 แต่เนื่องจากหนังสือเดินทางหมดอายุ (27 เม.ย.64) จึงทำให้ไม่สามารถรับคำร้องและดำเนินการอนุญาตให้อยู่ต่อเกินกว่าอายุของหนังสือเดินทางได้
ประกอบกับไม่สามารถดำเนินการใดๆ ที่เกี่ยวกับการต่ออายุหนังสือเดินทางได้ และได้แนะนำข้อกฎหมายให้กับผู้ยื่นขออยู่ต่อให้รีบดำเนินการต่ออายุหนังสือเดินทางโดยเร็ว หรือในโอกาสแรกที่สามารถทำได้ และกลับมายื่นขออนุญาตอยู่ต่อภายในกำหนดระยะเวลา (27 เม.ย.64) หากดำเนินการไม่ทันตามวันอนุญาตเดิม จะมีผลทำให้อยู่ในราชอาณาจักรเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ซึ่งการอยู่เกินมีอัตราค่าปรับวันละ 500 บาท สูงสุดไม่เกิน 20,000 บาท
อนึ่ง เมื่อทราบกรณีดังกล่าว จึงได้ประสานไปยังผู้ร้องเพื่อสอบถามข้อเท็จจริง โดยสามีบุคคลสัญชาติพม่าแจ้งว่า ได้ดำเนินการประสานไปยังสถานทูตพม่าประจำประเทศไทยตามที่ ตม.จว.นครราชสีมา แนะนำแล้ว แต่สถานทูตพม่าประจำประเทศไทยปิดทำการ และ ตม.จว.นครราชสีมา ได้ประสานไปยังสถานทูตพม่าประจำประเทศไทยอีกส่วนหนึ่ง ทราบว่าปิดจริง จึงได้แจ้งให้บุคคลสัญชาติพม่าทราบว่า ให้รีบดำเนินการขอหนังสือเดินทางในโอกาสแรกที่ทำได้ และ ตม.จว.นครราชสีมา พร้อมจะดำเนินการรับคำร้องและพิจารณาโดยเร็ว ซึ่งในขณะนี้ยังมิได้ดำเนินการเปรียบเทียบปรับแก่ชาวพม่า แต่อย่างใด
